ข่าว เพชรบุรี

ผบก.เพชรบุรี ติดตามคืบหน้า “ภาคิน”หายไร้ร่องรอย “ขณะที่”นายจ้าง-เพื่อนสนิท ไม่เชื่อ “อารยา”จะขาย”ภาคิน” ย้ำ “แม้ครอบครัวจน แต่ไม่ขัดสนเรื่องเงิน

ผบก.เพชรบุรี ติดตามคืบหน้า “ภาคิน”หายไร้ร่องรอย “ขณะที่”นายจ้าง-เพื่อนสนิท ไม่เชื่อ “อารยา”จะขาย”ภาคิน” ย้ำ “แม้ครอบครัวจน แต่ไม่ขัดสนเรื่องเงิน

เมื่อเวลา16.45น.วันที่5 เมษายน 2562 พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และ พ.ต.ท.อนุรักษ์ สิงห์สัง รอง ผกก . สภ.ท่ายาง รุดติดตามความคืบหน้าคดีเด็กชายภาคิน คิดตลอด อายุ1ขวบ7เดือน ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตามที่สื่อมวลชนทุกแขนงได้ติดตามนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องตลอดตั้งแต่วันที่1เมษายน ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภจว.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ เน้นการสืบสวนในเชิงลุก ทั้งสอบปากคำพ่อแม่และญาตหรือแม้กระทั่งน้องภู พี่ชายของน้องภาคิน นอกจากนั้นยังเชิญตัวเพื่อนใกล้ชิดของ น.ส.อารยา มาทำการสอบปากคำว่าคำพูดของ น. ส.อารยา แม่ของภาคิน ที่พูดตั้งแต่ตนนั้นไปสอดคล้องกับเพื่อนที่ทำงานโรงน้ำดื่มด้วยกันมั้ย นอกจากนั้นยังได้เน้นให้เจ้าหน้าที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามรัศมีใกล้เคียงกับบ้านของผู้สูญหายในระยะ 2-10 กม ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ในเชิงความลับ แต่ที่มีกระเเสข่าวว่า น.ส.อารยา ได้มอบภาคินให้กับเพื่อนคนหนึ่งที่มาจากภาคอีสานด้วยกันและยังอาศัยอยู่ในเขตอำเภอท่ายางนั้น ยังไม่ฟันธง แต่จะยังดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ออกค้นหากันต่อไป ส่วนเรื่องข้อสงสัยประเด็นอื่นๆก็ยังคงดำเนินการสอบสวนติดตามควบคู่กันไป
ในขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ ผบก.เพชรบุรี เสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามจะสอบถาม นายหนู ขัวลำหาญ ตาของภาคิน ว่า ผบก.พูดอะไรกับคุณตาบ้าง ตาหนูได้พูดขึ้นมาว่า ไม่ให้เข้ามาในบ้านแล้ว พร้อมกับรีบปิดประตูโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก็เป็นที่งุนงงของกองทัพนักข่าวทุกจากทุกสำนัก


ขณะที่ พ.ต.อ.อาชวิน บุญธรรมเจริญ ผกก.สภ.ท่ายาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และชุดปฎิบัติการพิเศษ สภ.ท่ายาง ประชุมร่วมกันถึงแนววิธีที่จะร่วมกันค้นหา”ภาคิน”อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในที่ประชุมมีข้อสรุปให้ประสานร้องขอกำลังสนับสนุนจากทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน
เพื่อร่วมกันค้นหา น้องภาคิน ในวันจันทร์ที่8 เมษายน 62 ตั้งแต่เวลา08.00น ตรงบริเวณ คลองสาย 3 จุดท่อไส้ไก่ขนาดกลางที่ในอดีตชาวบ้านเคยเจาะเพื่อส่งน้ำเข้าทุ่งนาในช่วงฤดูแล้งจำนวน2จุด จุดที่1บริเวณเหนือน้ำตกคลองสาย3 และจุดที่2บริเวณใต้น้ำตกคลองสาย3เช่นกัน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านน้องภาคินประมาณ80เมตร ซึ่งคาดว่าร่างภาคินอาจจะหลุดรอดเข้าไปในท่อส่งน้ำ ดังกล่าว จึงแจ้งขอกำลังสนับสนุน ให้พร้อมกันที่ สภ.ท่ายาง ช่วงวันและเวลาดังกล่าว

 

ต่อมาเมื่อเวลา08.30น วันที่6 เมษายน 62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงน้ำดื่มเพชรทิพย์ ตั้งอยู่หมู่ที่9 บ้านหนองแจง ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ นส.อารยา ขัวลำหาญ แม่ของ ภาคิน เพื่อไปสอบถาม น.ส.อัมพร สีใสอายุ27ปี เพื่อนสนิท ซึ่ง นส อัมพร ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ว่า นส.อารยา แม่ของน้องภาคินรู้จักกับตนมานานหลายปี เคยกินและนอนด้วยกัน จนรู้อุปนิสัยใจคอของ อารยา หรือ โบ แม่ของน้องภาคิน เป็นอย่างดี โดยก่อนที่น้องภาคินจะหายไป อารยาก็เอาน้องภาคินมาเล่นที่ทำงาน ซึ่ง อารยาเป็นคนที่รักลูกทั้งสองคนมาก การเลี้ยงดูก็ไม่เคยให้ลูกอด แม้ว่าครอบครัวของเค้าจะยากจน พื้นเพเดิมมาจากจังหวัดนครพนม มาทำงานอยู่ในเขตอำเภอท่ายางพร้อมกับครอบครัวนานกลายปี แต่เค้าก็มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง ดังนั้นที่มีข่าวว่า อารยาขายลูกนั้น ตนเชื่อว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนตนยังเชื่อว่า น้องภาคิน พลัดตกลงไปในลำคลองอย่างแน่นอน แม้ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่จะยังติดตามค้นหายังไม่พบก็ตาม แต่ตนและเพื่อนที่ทำงานคนอื่นๆก็ยังมีความเชื่อเหมือนตนว่า น้องภาคินนั้นพลัดตกน้ำอย่างแน่นอน ตนไม่เชื่อตามข่าวลือว่า อารยา จะขายหรือยกภาคินไปให้คนอื่นอย่าง แน่นอน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันออกติดตามค้นหาน้องภาคินให้ถึงที่สุด

ในขณะที่นายสยุมพร สายพิรุณทอง อายุ40 ปี เจ้าของโรงงานผลิตน้ำดื่มเพชรทิพย์ซึ่งเป็นนายจ้างของ น.ส.อารยา เปิดเผยว่า ปกติ อารยา จะนำลูกชายไปฝากกับผู้รับจ้างเลี้ยงเด็กในหมู่บ้านดอนขุนห้วย ก่อนมาทำงานอยู่เป็นประจำแต่หากวันที่งานในโรงงานไม่เร่งด่วน อารยา มักจะเอาลูกมาเล่นที่ทำงานอยู่ตลอด ตนก็เห็นอยู่เป็นประจำ น.ส.อารยา แม่ของน้องภาคินเป็นคนที่รับผิดชอบต่อหน้าที่การงานไม่เคยเป็นกู้หนี้รายวัน เพราะตนจ่ายค่าแรงตรงต่อเวลาทุกครั้ง และ น.ส.อารยา ไม่เคยปล่อยปะละเลยในการเลี้ยงดูลูกเป็นตนรักลูกมาก ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ น.ส.อารยา จะทำกับลูกตามที่เป็นข่าวลือกันอยู่ในขณะนี้ จึงอยากให้มอง อารยาในทางบวกมากกว่าทางลบ เพราะจากการติดตามข่าว อารยาก็ไม่เคยพูดเกี่ยวกับการขายลูกให้กับคนอื่นหรือสื่อมวลชนฟังเลย ดังนั้นข่าวลือดังกล่าวอาจจะมาจากบางคนที่คิดไปเองและมีการพูดคุยวิจารณ์ต่อเนื่องกัน จึงเกิดกระเเสด้านผลลบออกมาในช่วงที่มีการค้นหาน้องภาคิน ดังนั้นตนในฐานะ นายจ้างของ น.ส.อารยา จึงขอความเป็นธรรมให้กับตัวเค้าด้วย และขอให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาตามจุดต้องสงสัยกันอีกครั้ง เพื่อความจริงจะได้ปรากฏ และขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของ น.ส.อารยา และนายโชคชัย ผู้เป็นแม่และพ่อของน้องภาคินด้วย


กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี