ข่าวกระแสสังคม ข่าวร้องเรียน ข่าวรอบรั้วภูธร

ขาใหญ่ปราบโกง!! ” มงคลกิตติ์” ชี้ กองทุนเสมาฯ ควรมีต่อไป เล็งยื่นเร่งลัด รมว.ศธ ตั้งสอบวินัยร้ายแรง-ดำเนินคดี อาญา-ละเมิด ทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กับ บิ๊ก ศธ ก่อนตั้ง ระดับ 11-10 ควรเร่งดำเนินคดี อาญา-ละเมิด กับ อดีต ปลัด ศธ และ เร่งลัดเยียวยาเงินต้น-เงินเดือน พร้อมดอกเบี้ย กับ นักเรียน-พนักงานกองทุนฯ กว่า 250 ราย!!

  ขาใหญ่ปราบโกง!! “มงคลกิตติ์”ชี้ กองทุนเสมาฯ ควรมีต่อไป เล็งยื่นเร่งลัด รมว.ศธ ตั้งสอบวินัยร้ายแรง-ดำเนินคดี อาญา-ละเมิด ทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กับ บิ๊ก ศธ ก่อนตั้ง ระดับ 11-10 ควรเร่งดำเนินคดี อาญา-ละเมิด กับ อดีต ปลัด ศธ และ เร่งลัดเยียวยาเงินต้น-เงินเดือน พร้อมดอกเบี้ย กับ นักเรียน-พนักงานกองทุนฯ กว่า 250 ราย

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช) และ ว่าที่ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ตน และ คณะฯ ได้ติดตามเรื่องทุจริตทุกรายการในกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเรื่องนี้ก็ติดตามมากว่า 6 เดือน รวมทั้งมีพนักงานกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตมาร้องเรียนว่าไม่ได้เงินเดือนกว่า 1 ปี อีกทั้ง กลุ่มนักเรียนกองทุนฯก็มาร้องเรียนว่ายังไม่ได้รับเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาเป็นจำนวนมาก ทำเป็นหนี้-ขาดโอกาสทางการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับกระทรวงศึกษาธิการที่จะออกมายอมรับว่ามีการทุจริตเงินที่ส่งเสริมการศึกษาให้กับกลุ่มเด็กหญิงที่อยู่ในสภาพยากลำบากต่อการศึกษาของกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต หลังยอมรับว่า มีข้าราชการ 1 ราย ยักยอกเงินกองทุนนี้มานานกว่า 10 ปี รวมมูลค่า เกือบ 88 ล้านบาท ภายหลังได้มีการสืบลึกเข้าไปจนมีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องกว่า 44 ราย มีทั้ง อดีต ปลัดกระทรวงศึกษาธิการหลายคน ข้าราชการระดับสูงอีกหลายคนที่มีตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้ง บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลย ทำให้ราชการเสียหาย ซึ่งปัจจุบัน ทางกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว รอเพียง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ตั้งกรรมกรรมสอบวินัยร้ายแรง กับ ข้าราชการประจำระดับสูงที่ยังอยู่ในราชการ ประมาณ 2-3 ราย ส่วนอดีต ปลัดกระทรวงศึกษาธิการหลายคน ก็ต้องดำเนินคดีเอาผิดทางละเมิดทำให้ราชการเสียหาย ถ้าเกี่ยวข้องกับการทุจริตโดยตรงก็ต้องส่งต่อให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป


นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เริ่มก่อตั้ง เมื่อปี 2542 ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย มีจุดประสงค์ดึงเด็กหญิงในภาคเหนือที่ยากจน เสี่ยงต่อการล่อลวงไปค้าประเวณี ให้อยู่ในระบบการศึกษาต่อระดับวิชาชีพ หรือ กลุ่มเด็กตกเขียว โดยเริ่มต้นกองทุน รัฐบาลนำงบประมาณ 600 ล้านบาท จากกองสลากฯ มาเป็นเงินตั้งต้น โดยฝากประจำในบัญชีธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ปัจจุบันฝากอยู่ที่ธนาคารกรุงไทย สาขา ศธ. แล้วใช้เงินดอกผลจากกองทุนมาแจกจ่ายให้เด็กที่ผ่านคัดเลือกจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจากภาคเหนือและอีสาน แต่ละปีจะมีเงินสมทบจากเงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดินและเงินบริจาค โดยการบริหารกองทุนมีคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานทำการพิจารณาและอนุมัติจัดสรรทุนให้กับนักเรียนกว่า 19 ปี ในการจัดสรรงบ “กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต” ให้เด็กหญิงยากไร้ เพื่อให้พวกเขามีทิศทางอนาคตด้วยการศึกษา กลับมีข่าวยักยอกเงินกองทุนจากข้าราชการระดับสูง นำมาสู่การแถลงข่าวของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อข้าราชการระดับสูงยักยอกหรือเบียดบังเงินเด็กผู้ยากไร้ที่ต้องการศึกษามาปลดปล่อยความทุกข์ยากจากความจน ต้องจนซ้ำ และทุกข์ยากต่อไป เพราะความไม่พอของคนบางประเภท เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อกระทรวงสาธารณสุข โดยทางกระทรวงสาธารณะสุข เปิดเผยจำนวนนักเรียนพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ปีการศึกษา 2555-2560 ที่รับทุนเสมา 254 คน ไม่ได้รับทุนและค้างจ่าย 198 คน มีเด็กได้รับทุนครบเพียง 56 คน ทำให้ครอบครัวเด็กบางคนซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต้องกู้หนี้นอกระบบมาเล่าเรียน ทำให้สถานการณ์ครอบครัวยากลำบากมากกว่าเดิม และเด็กบางคนต้องหลุดระบบการศึกษาไป ทิ้งความฝันเพราะไม่ได้รับทุน อีกส่วนหนึ่ง คือ ลูกจ้างที่มาดูแลทำหน้าที่ให้กับกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต สังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กว่า 50 ราย ไม่ได้รับเงินเดือนมาร่วม 1 ปี งบประมาณ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เรื่องการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็น ที่จะเรียนไปยัง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ควรเร่งดำเนินการ คือ 1. ควรเร่ง ตั้งกรรมกรรมสอบวินัยร้ายแรง กับ ข้าราชการประจำระดับสูงที่ยังอยู่ในราชการ ประมาณ 2-3 ราย ก่อนแต่งตั้ง ซี 11-10 ส่วนอดีต ปลัดกระทรวงศึกษาธิการหลายคน ก็ต้องดำเนินคดีเอาผิดทางละเมิดที่ทำให้ราชการเสียหาย ถ้าเกี่ยวข้องกับการทุจริตโดยตรงก็ต้องส่งต่อให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป
2. ควรเร่ง ชดเชยเยียวยากับนักเรียนที่ต้องได้รับเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กว่า 198 ราย แต่กลับถูกยังยอกเงินออกไป ซึ่งพวกเขาไม่ได้ผิด โดยชดเชยทั้งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเพราะนักเรียนเหล่านั้นต้องนำเงินไปใช้หนี้ด้วย พร้อมทั้ง ชดเชยเงินเดือนพนักงานกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กว่า 50 ราย ที่ไม่ได้รับเงินเดือนว่ากว่า 11 เดือน(หยุดจ่ายช่วงการตรวจสอบทุจริตฯ) สุดท้ายกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ควรมีต่อไปเพราะสามารถให้โอกาสชีวิตและอนาคตทางการศึกษากับผู้ยากไร้ สถานะทางครอบครัวไม่พร้อมจำนวนมาก เพราะเป็นสิ่งที่ดี

คลิ๊กชมคลิป

https://www.facebook.com/ajanmongkolkit/videos/2050085528396689/