ข่าว ปราจีน

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ครอบครัวแพะ ที่ถูกสวมชื่อเป็นผู้ต้องหา พร้อมให้เอาผิดดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง 2 โรงพัก

วันที่ : 13 ส.ค..2562
ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ครอบครัวแพะ ที่ถูกสวมชื่อเป็นผู้ต้องหา พร้อมให้เอาผิดดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง 2 โรงพัก

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมคณะทำงานนำตัวนางใบพร ไชยสวัสดิ์ อายุ 45 ปี ภรรยา นายสมควร ช้างสาร ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจองปราบจับกุมตัวในข้อหา พรบ.ป่าไม้ และ พรบ.ยาเสพติดให้โทษ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และร่วมกับพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกบินทร์ฐุรี เข้าพบ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีทั้งทางวินัย และอาญาต่อ เจ้าพนักงานสอบสวน สภ.วังตะเคียน และ สภ.นาดี เนื่องจาก เมื่อวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2562 นางใบพร ไชยสวัสดิ์ ได้เข้าขอความช่วยเหลือ นายสมควร ช้างสาร สามีถูกจับกุมไม่ได้กระทำความผิดเพราะถูกสวมชื่อ หลังได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานราชการ และศูนย์ดำรงธรรมแต่ไม่เป็นผล จนมีการตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติหลายอย่างและมีการทำเป็นขบวนการมีการปลอมแปลงเอกสารจากบุคคลหนี่งไปอีกบุคคลหนึ่ง โดยมีผู้ปลอมชื่อเป็นนายสมควร ช้างสาร ในการกระทำผิดทำให้นายสมควรถูกขังในเรือนจำกบินทร์บุรี สืบเนื่องมาจาก สภ.วังตะเคียนได้จับกุมผู้ต้องพร้อมของกลางเป็นรถยนต์ และมีการอ้างชื่อ นายสมควร ช้างสาร เป็นผู้ต้องหา ซึ่งความจริงผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคือ นายตุ๊ย เป็นคนลาว มีการเอาผู้ใหญ่บ้านและภรรยานายตุ๊ย มารับรองว่านายตุ๊ยคือนายสมควร จนเรื่องไปถึงอัยการส่งฟ้องศาล ระหว่างนั้นนายประกันไปขอคัดทะเบียนราฎร์ ที่ อำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งนายสมควร อยู่ จ.อุบลราชธานี ส่วนนายตุ๊ย คนลาวอยู่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งไม่ทราบว่าทำไมเจ้าหน้าที่ อำเภอจะยอมให้นายประกันคัดทะเบียนบ้านคนอื่นได้ กระทั่งศาลมีคำพิพากษา ให้ นายสมควร ช้างสาร ติดคุกซึ่งทำให้นายสมควร ต้องสูญเสียชื่อเสียงและประวัติ
จากนั้นไม่นาน นายตุ๊ย ได้ไปก่อเหตุในพื้นที่ สภ.นาดี แต่ไม่พบผู้กระทำความผิดพบรถของกลางและโทรศัพท์มือถือ ปรากฏว่า เหมือนเดิมพนักงานสอบสวน อ้างว่าโทรศัพท์ เป็นของนายสมควร ช้างสาร แท้จริงเป็นของนาง ชฎาพร เมียนายตุ๊ย รถคันเกิดเหตุก็เป็นขอคนอื่นไม่ใช่ของนายสมควร แต่นายอดิสรณ์ สุขัง ลูกเขยนายตุ๊ยมาอ้างว่ารถคันดัวกล่าวเป็นของนายสมควร ช้างสาร จนกระทั่งมีการจับกุมนาสมควร ในวันนี้ทางชมรม ฯได้ประสานกับทาง ผบก.ปราจีนบุรี ดำเนินการจนนายตุ๊ย ที่ถูกขังในเรือนจำกบินทร์บุรี ให้การรับความจริง
ในส่วนต่อไปก็จะต้องมีการดำเนินการเจ้าหน้าที่ทั้งทางวินัยและอาญาเนื่องจากมีการทำกันเป็นขบวนการ ส่วนนายสมควร ช้างสาร ก็ได้รับการปล่อยตัวแล้วในวันนี้ ซึ่ง ภายหลังการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพ นายสมควรดีใจโผกอดภรรยา และหอมแก้ม บอกจากนี้จะไปทำงานที่ กรุงเทพเหมือนเดิม พร้อมขอบคุณ ทนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ช่วยเหลือจนกลับสู่อิสระภาพอีกครั้ง