ข่าวกระแสสังคม

มงคลกิตติ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลปรับลดฐานเงินเดือน ”ขรก.การเมือง- บอร์ดรัฐวิสาหกิจ” ชี้ คสช.บริหารงบได้ดีกว่า “พท.-ปชป.”

ว่าที่“พรรคไทยศรีวิไลย์” ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลปรับลดฐานเงินเดือน ”ขรก.การเมือง- บอร์ดรัฐวิสาหกิจ” ชี้ คสช.บริหารงบได้ดีกว่า “พท.-ปชป.”

15 มิ.ย.61 เวลา 10.30 น นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ว่าที่ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา ว่าที่โฆษกพรรคไทยศรีวิไลย์ และ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม ว่าที่ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ ประเด็น จะเสนอรัฐบาลออกระเบียบ ลดเงินเดือน 15%-50% ครม สนช ceo (รัฐวิสาหกิจ ที่แก้ปัญหาไม่ได้ ขาดทุน) ผู้ที่ถูกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ระดับ 9-11สังกัด กระทรวง องค์กรอิสระ เพื่อลดภาระรายจ่ายให้สอดคล้องกับภาวะหนี้สาธารณะ 6.85 ล้านล้านบาท(สิ้นปีงบประมาณ 2562)
แถลงข่าวถึงข้อเสนอให้แก้ไข พรบ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ข้าราชการการเมืองฯ ของ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.), รองประธาน สนช., สมาชิก คสช., สมาชิก สนช., นายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวง, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง, ลดอัตราเงินเดือน 15-30 เปอร์เซ็นต์ ตามความเหมาะสม เสนอแก้ไข พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ข้าราชการประจำ เช่น ปลัดกระทรวง, รองปลัดกระทรวง, อธิบดี, ผู้ตรวจราชการ, รองอธิบดี, ผอ.สำนัก ข้าราชราชระดับ 9-11 ลดอัตราเงินเดือน 15-25 เปอร์เซ็นต์ ตามความเหมาะสม เสนอแก้ไข พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ข้าราชการประจำ เช่น ปลัดกระทรวง, รองปลัดกระทรวง, อธิบดี, ผู้ตรวจราชการ, รองอธิบดี, ผอ.สำนัก ข้าราชราชระดับ 9-11 ลดอัตราเงินเดือน 40-50 เปอร์เซ็นต์ ตามความเหมาะสม (เฉพาะในส่วนที่ถูกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ประจำกระทรวง, ประจำกรม ที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบการทุจริต) เสนอแก้ไขระเบียบ อัตราค่าตอบแทนกรรมการบอร์ด CEO รัฐวิสาหกิจที่ผูกขาด และ มีกำไร ให้ลดอัตราเงินเดือน 20-30 เปอร์เซ็นต์ และเสนอแก้ไขระเบียบ อัตราค่าตอบแทน กรรมการบอร์ด CEO รัฐวิสาหกิจ ที่ขาดทุนและบริหารแย่ ให้ลดอัตราเงินเดือน 50 เปอร์เซ็นต์

“ภาระงบประมาณแผ่นดิน และภาระหนี้สาธารณะของประเทศ ว่า ภาระหนี้สาธารณะของประเทศในปัจจุบันมีถึง 6,400,711.48 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.04 ของ GDP ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีกว่า ที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ได้เพิ่มหนี้สาธารณะกว่า 1,578,517 ล้านบาท(สิ้นปีงบประมาณ 2562) หากย้อนหลังไปเปรียบเทียบกับสมัยรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2555-2557 มีหนี้สาธารณะ 940,994 ล้านบาท และในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2552 -2554 มีหนี้สาธารณะ 869,382 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาล คสช.นั้นสามารถบริหารประเทศได้ดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ตนก็เชื่อว่ายังมีคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศได้ดีกว่านี้” นายมงคลกิตติ์ กล่าว


นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับอัตราเงินเดือนในตำแหน่งสำคัญต่างๆ เช่น ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) หัวหน้า คสช. จะได้รับเงินเดือนรวม 125,590 บาท รองประธานสนช. จะได้รับเงินเดือนรวม 118,740 บาท สมาชิก คสช. จะได้รับเงินเดือนรวม 119,720 บาท นายกฯจะได้รับเงินเดือนรวม 125,590 บาท สมาชิก สนช. จะได้รับเงินเดือนรวม 113,560 บาท รองนายกฯจะได้รับเงินเดือนรวม 118,740 บาท รมว.ประจำกระทรวง จะได้รับเงินเดือนรวม 115,740 บาท รมช.ประจำกระทรวงจะได้รับเงินเดือนรวม 113,560 บาท ปลัดกระทรวงจะได้เงินเดือนรวม 118,800 บาท อธิบดีจะได้เงินเดือนรวม 90,860 บาท ผู้ตรวจราชการจะได้รับเงินเดือนรวม 90,860 บาท เป็นต้น ส่วนอัตรารายได้ต่อปีของผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เช่น บอร์ด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายได้รวมอยู่ที่ 2.5-4 ล้านบาท บอร์ดการบินไทย รายได้รวมอยู่ที่ 3-4.5 ล้านบาท เป็นต้น