ข่าว ร้อยเอ็ด ข่าวรอบรั้วภูธร สถานที่ท่องเที่ยว

จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมคณะนักวิจัยและคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบซากหอยฟอสซิลดึกดำบรรพ์ ณ บริเวณที่พักสงฆ์ภูกุ้มข้าว หมู่ที่ 5 บ้านภูเขาทอง ตำบลคำผะอุง อำเภอโพธิ์ชัย อายุนับ130ล้านปี /ชมรมสื่อออนไลน์IT/nuk/0817082129-

จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมคณะนักวิจัยและคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบซากหอยฟอสซิลดึกดำบรรพ์ ณ บริเวณที่พักสงฆ์ภูกุ้มข้าว หมู่ที่ 5 บ้านภูเขาทอง ตำบลคำผะอุง อำเภอโพธิ์ชัย อายุนับ130ล้านปี

/ชมรมสื่อออนไลน์IT/nuk/0817082129-

 

http://www.youtube.com/watch?v=O1rjBPxxpCk
เลิศบุศย์ รอง.ผวจ.เผยเรื่องหอสซิลหอยที่ภูกุ้มข้าว อ.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด อายุ 130ปี/ชมรมสื่อออนไลน์IT/สมนึก-ประธาน/0817082129-ข่าว
สุเทพ ลอยแก้ว-เลขาชมรมฯ-ภาพ

-วันนี้ 13 มิถุนายน 2562 เวลา 14.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายวิชิต ศีลพันธ์ นายอำเภอโพธิ์ชัย นายสายยนต์ สีหาบัว ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมคณะนักวิจัยและคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบซากหอยฟอสซิลดึกดำบรรพ์ ณ บริเวณที่พักสงฆ์ภูกุ้มข้าว หมู่ที่ 5 บ้านภูเขาทอง ตำบลคำผะอุง อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด

จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคามลัย พบว่าซากฟอสซิลหอยบางตัวมีความสมบูรณ์อย่างมาก โดยพบว่ามีหอย 2 ฝา คล้ายหอยแครง ซึ่งเป็นหอยทะเล นอกจากนั้นยังพบฟอสซิลต่างๆอีกหลายอย่าง เช่นฟอสซิลสาหร่าย ปะการัง ส่วนใหญ่จะเป็นซากฟอสซิลหอยที่ฝังตามก้อนหิน และแท่งหิน ฟอสซิลที่พบนั้นทางคณะที่ลงพื้นที่ได้นำกลับไปเพื่อศึกษาและส่งตัวอย่างฟอสซิลไปพิสูจน์ว่ามีอายุกี่ล้านปี อยู่ในยุคใด? เบื้องต้นพบว่ามีอายุราว 130 ล้านปี อยู่ในหมวดหินเสาขัว กลุ่มหินโคราช

ซึ่งสันนิษฐานว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นแหล่งน้ำหรือแม่น้ำโบราณยุคไดโนเสาร์ จึงมีการทับถมซากฟอสซิลหอยที่สมบูรณ์มาก ซึ่งพบมากเป็นบริเวณกว้างรอบภูกุ้มข้าว หมู่ที่ 5 บ้านภูเขาทอง ตำบลคำผะอุง อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยจังหวัดร้อยเอ็ดจึงได้มอบหมายให้นายอำเภอโพธิ์ชัยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพิสูจน์ซากฟอสซิลโดยผู้เชี่ยวชาญ และจะได้เปิดเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าวิจัยและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไปในอนาคต

หลังจากนั้นได้เดินทางไปสำรวจถ้ำ ณ วัดถ้ำหินสอ ซึ่งห่างจากบริเวณที่พบฟอสซิลหอบ ณที่พักสงฆ์ภูกุ้มข้าว ประมาณ 400 เมตร เพื่อศึกษาความสวยงามของชง่อนผา และเตรียมข้อมูลประชาสัมพันธ์พร้อมส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ดในอนาคต เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะมีชง่อนพาที่เกิดจากการเซาะของน้ำตามธรรมชาติที่สวยงามเป็นแนวยาวตามภูเขา

/ชมรมสื่อออนไลน์IT/ชสอท.:MOITCr.
สมนึก บุญศรี-ประธานฯ/0817082129-