“บุญเลิศ” ชิงตอบโจทย์คาใจคนเชียงใหม่ ทำไม “ไม่อิงพรรค” สู้ศึกเลือกตั้งอบจ.
นับถอยหลังคงไม่นานซึ่งกกต.จะต้องประกาศวันเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วไทย ทั้งกทม.เมืองพิเศษ อบจ.ทั่วประเทศตลอดจนถึงเทศบาลฯลฯและอบต. การเลือกตั้งใหญ่จบลงถือว่าจบ การเริ่มใหม่ของการเลือกตั้งศึกเลือกตั้งท้องถิ่น กำลังระอุขึ้นเสียงปี่กลองและการสลับขั้วสลับค่ายของนักการเมือง ถือเป็นเรื่องปรกติธรรมดา ขึ้นอยู่คะแนนเสียงของชาวบ้านตลอดจนถึงกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ของการวางแผนหาคะแนนเสียงนิยม โดยกกต.เป็นกรรมการการเลือกตั้งคอยดูแลกำกับความโปร่งใส
พุ่งเป้าไปที่ “การเมืองเชียงใหม่” ศึกชิงเก้าอี้นายกอบจ.และส.อบจ. ทั้งหมด 42 เขตเลือกตั้ง 25 อำเภอ ซึ่งตอนนี้แน่นอนว่ามีพรรคการเมืองใหญ่ๆหลายพรรคส่งผู้สมัครในนามพรรคออย่างออกหน้าและรับรองการลงในนามพรรค เพื่อรักษาฐานเช็คฐานคะแนนเสียงของพรรคไว้เป็นแนวร่วมการเมืองใหญ่ ก็ถือว่าไม่ปรกติเพราะที่ผ่านๆมาพรรคการเมืองจะไม่ก้าวก่ายการทำงานของนักการเมืองท้องถิ่นหรือกลุ่มการเมืองท้องถิ่น
แต่ปัจจุบันไม่ใช่? ที่เปิดหน้าจ๋ามาเลยนั้น ทั้งหัวแดงหัวส้มหัวเขียวหัวเหลืองหรือหัวกลายพันธุ์ ยังรอดูท่าทีพรรคอื่นๆ ว่าจะจัดส่งใครแต่เซียนการเมืองฟันธงแล้วว่าพลังประชารัฐคงไม่หนีสนามท้องถิ่นที่เชียงใหม่ คงไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลไปแบบง่ายดายแบบนั่งดูเฉยๆก็คงไม่ใช่
ที่คาใจคนเชียงใหม่และวิพากษ์กันอยู่ในขณะนี้ เป็นกระแสข่าวฮอต!ทั้งโลกโชเชี่ยลตลอดจนวงเม๊าท์มอยฯลฯ คือเรื่องของ “นายกโต๊ะ – บุญเลิศ บูรณุปกรณ์” ว่าทำไม? อะไร? ถึงต้องเลือกเดินสายกลาง “คือกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม” และเจ้าตัวออกตัวไปแล้วว่า “ไม่ขออิงพรรคการเมืองใดๆในการลงรับสมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ในสมัยที่จะถึงนี้? คนเชียงใหม่อึ้งถึงกับงงกันไปกับกระแสข่าวนี้ที่ทั้งฮอตและแรงในสนามการเมืองท้องถิ่น” ทีมข่าวการเมือง “เจาะลึกศึกเลือกตั้งท้องถิ่นอบจ.พื้นที่ไข่แดงเชียงใหม่พี่ใหญ่ในโซนภาคเหนือตอนบน แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับความสนใจมากสุดและเบนเข็มทิศทางด้านการเมืองอนาคตการเมืองคือ ไม่ขอไปตามกระแสพรรคการเมืองใหญ่นั้นคือ
“นายกบุญเลิศ บูรณุปกรณ์” นายกอบจ.เชียงใหม่คนปัจจุบัน หรือเรียกกันว่า “เสี่ยโต๊ะ” นั้น พร้อมที่จะเดินสายกลางคือขอประสานกับทุกฝ่ายแบบ “มืออาชีพประสานสิบทิศ” การประกาศตัวถอยมาหนึ่งก้าวของ “นายกบุญเลิศ” เป็นการตัดสินใจที่ยืนอยู่บนความอดทนอดกลั้นและกลั่นกรองสถานการณ์ด้านการบ้านการเมืองของท้องถิ่นและของเมืองไทยว่า การเดินสายกลางไม่เอนเอียงไปยังข้างใดข้างหนึ่งจะขอเป็นจุดยืนแห่งความสำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ เพราะถือว่า การประสานด้านการเมืองที่สามารถเข้าถึงแตะได้ทุกฝ่ายทุกพรรคการเมืองนั้น คือภาระอันสำคัญที่เวลานี้บ้านเมืองกำลังต้องการความสามัคคี
“ที่ไม่ใช่การแบ่งแยกแบ่งขั้วและแบ่งสี”
จากความนัย “จากใจคนชื่อบุญเลิศ” ได้กล่าวย้ำในทุกสนามทั่วท้องถิ่นเชียงใหม่เวลาลงพบปะผู้คนในต่างอำเภอที่ลงทำกิจกรรมร่วมกับพี่น้องชาวบ้าน “ผมเองมีเพื่อนพ้องน้องพี่ในทุกพรรคการเมือง ผมเป็นหัวหน้ากลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมและทำการเมืองท้องถิ่นมาต่อเนื่อง ก็ไม่เคยทำให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ต้องผิดหวัง และส.อบจ.ที่เป็นกำลังสำคัญก็ร่วมมือกันเป็นอย่างดีในการร่วมกันพัฒนาทุกเขตพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเจริญหลากหลายให้เกิดขึ้นด้วยงบประมาณที่อบจ.มีอยู่เราทำงานกันมาต่อเนื่องและสามัคคี”
ผมไม่ขอพูดถึงการที่พรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่เชียงใหม่ที่เป็นเป้าหมาย แต่วันนี้จะทำความเข้าใจถึง “ทำไม่ถึงต้องเลือกเดินสายกลาง” ไม่สังกัดพรรคการเมือง และแสข่าวลือต่างๆที่เป็นภาพที่เป็นการโยนความเข้าใจผิดด้านการเมือง ให้ประชาชนรู้สึกสับสนว่า ผมจะเอาแบบไหนแน่
ตอนนี้ผมประกาศจุดยืนชัดเจนเลยว่า “ผมไม่สังกัดพรรคการเมือง” ไม่ลงสมัครในนามพรรคการเมืองใดๆ ขอเป็นทางสายกลาง “เชียงใหม่คุณธรรมคุณ” และนำธรรมอยู่คู่เชียงใหม่ การทำการเมืองท้องถิ่นทำงานเพื่อท้องถิ่นบ้านเกิดเมืองนอน บางครั้งเราต้องไปให้น้ำหนักกับการสังกัดพรรคการเมืองให้มากนัก เราต้องไม่ถูกครอบงำเพราะนโยบายต่างๆ เราคนท้องถิ่นเราคิดเองทำเองแก้ไขปัญหากันเองได้ การเมืองใหญ่ก็ให้เป็นไปอีกเรื่อง ขอคนท้องถิ่นเชียงใหม่โปรดจงเข้าใจในเจตนารมณ์ของผมในครั้งนี้ด้วย”
ภาพทุกภาพที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวออกไป ว่าทำไมพรรคนั้นถึงไม่เลือกผม พรรคนี้ถึงไม่เลือกผม ผมก็ถือว่าดีครับ เพราะประชาชนคนเชียงใหม่ก็ต้องการอยากรู้และเป็นส่วนประกอบในการคิดตัดสินใจ ว่าอนาคตของการพัฒนาเชียงใหม่ คนเชียงใหม่ควรมีสิทธิ์เป็นของตนเองมากน้อยเพียงใด ผมให้เกียรติทุกๆความคิดเห็นและทุกๆคนที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาให้ได้รับทราบ และขอยืนหยัดรับใช้ประชาชนด้วยความตั้งใจจริงที่ว่า “ไม่ทิ้งพื้นที่ ไม่หนีปัญหา พูดจริง ทำจริง ไม่ทิ้งประชาชน” ตรงนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
การเมืองท้องถิ่น เพื่อคนท้องถิ่น วันนี้สนามบนถนนสายการเมืองท้องถิ่น บรรยากาศของการเลือกตั้งเริ่มเปลี่ยนผันไปตามยุคตามสมัยและกาลเวลา ไม่มีอะไรกำหนดได้ชัดเจนว่า ต้องเป็นอย่างงั้้นหรือต้องเป็นแบบนี้ อะไรที่ดีที่สุดขอคนเชียงใหม่ ได้มีส่วนร่วมคิดแก้ไขและพิจารณาในการเลือกตั้งผู้แทนท้องถิ่นของเรา องค์การบริหารส่วนจังหวัดต่างๆ เกิดจากความต้องการของประชาชนคนท้องถิ่นที่ไม่ใช่ของพรรคการเมืองหรือคนการเมืองคนใด เป็นผู้กำหนด ท้องถิ่นเราคิดเองทำเองได้ อย่างที่เห็นและเป็นไป
วันนี้อีกข้อคิดที่สำคัญในคำถามที่คนเชียงใหม่อยากรู้คือ “นายก”บุญเลิศ” ได้ตอบโจทย์สำคัญ ของแต่ละสถานการณ์และยังมีอีกหลายข้อกังขาที่จะต้องเคลียร์ใจกันแบบช็อตต่อช็อต ก่อนการสมัครรับเลือกตั้ง ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นอบจ.เชียงใหม่ ที่กำลังจะมาถึง.
ทรงวุฒิ ทับทอง
