ข่าว ปราจีน

ปราจีนบุรี”ศรีมโหสถ” รื้อป้ายถิ่นไทพวน หลัง ‘สุจิตต์’ อัดคลิปโวยเล็งฟ้องพญาแถน ปมข้อมูลคลาดเคลื่อน!!

ปราจีนบุรี”ศรีมโหสถ” รื้อป้ายถิ่นไทพวน หลัง ‘สุจิตต์’ อัดคลิปโวยเล็งฟ้องพญาแถน ปมข้อมูลคลาดเคลื่อน!!

สืบเนื่องกรณีนายสุจิตต์ วงษ์เทศ คอลัมนิสต์ในเครือมติชน อัดคลิป ‘ผมจะฟ้องใครดี?’ เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กมติชนออนไลน์ในช่วงค่ำของวันที่ 2 กันยายน มีเนื้อหาเรียกร้องให้รื้อถอนแผ่นป้ายโลหะที่ติดตั้งอยู่ริมถนนสายหนึ่งในอำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี บริเวณที่รู้จักกันในชื่อ ‘บ้านด่าน’ เนื่องจากมีข้อมูลผิดพลาดโดยเฉพาะประเด็นที่ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาว ‘ไทพวน’ เมื่อวันที่ 3 กย.62 นางสาวจิรภา ทองศิริ นายอำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ตนได้ชมคลิปดังกล่าวแล้ว โดยเบื้องต้นได้ประสานไปยังวัฒนธรรมจังหวัดซึ่งคาดว่าเป็นหน่วยงานที่จัดทำป้ายขึ้น พบว่าเป็นผู้ดำเนินการทำป้ายจริง จากการสอบถามชาวบ้านได้ข้อมูลว่าเป็นป้ายที่ติดตั้งมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อได้รับแจ้งจากนายสุจิตต์ผ่านคนท้องถิ่นก็ได้พยายามหาคำตอบว่าหน่วยงานใดเป็นเจ้าของ โดยอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน แต่ก็มีคลิปออกมาก่อน นอกจากนี้ ตนไม่เคยได้รับหนังสือร้องเรียนแต่อย่างใด ทั้งจากนายสุจิตต์ และจากชาวบ้านซึ่งไม่ได้เดือดร้อนจากป้ายดังกล่าว นางสาวจิรภากล่าวเพิ่มเติมว่า การรื้อป้ายเป็นอำนาจของ อบจ.หรือ อบต. ส่วนป้ายที่ติดตั้งริมถนนเป็นอำนาจของแขวงการทาง อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ ได้มีการพูดคุยหารือกันได้ข้อตกลงว่าจะมีการรื้อป้ายออกในวันพรุ่งนี้ 4 กันยายน เวลา 10.00 น. วันนี้ 4 กย.62 ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังท่านนายอำเภอฯ ท่านติดราชการที่กรมฯมอบหมายให้ นส.กุลฉัตรหอมหวน ปลัดเภอฯและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับเทศบาลโดยนายสิทธิชัย เหรียญอารีย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโคกปีบร่วมกันลงพื้นที่เพื่อรื้อถอนป้ายดังกล่าวที่ติดตั้งไว้ นายสิทธิชัย ได้กล่าวว่าป้ายนี้ไม่ทราบว่าหน่วยงานใดนำมาติดตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อใดคาดว่าน่าจะหลายปีแล้ว กระทั่งมีคนทักท้วงว่ามีข้อมูลคลาดเคลื่อนจึงลงมารื้อป้ายดังกล่าวออกไปเก็บรักษาไว้ที่เทศบาลก่อน หมู่บ้านนี้ไม่ได้เป็นหมู่บ้านไทยพวนแต่มีคนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เป็นคนพวนไม่กี่คนเท่านั้นจากการสอบถามนายสมศักดิ์ รัตนวงศ์ ชาวม.7 บ.บ้านด่าน กล่าวว่าหมู่บ้่านนี้ไม่ใช่หมู่บ้านไทยพวนจะมีบ้างคนพวนมาอยู่ที่นี่ไม่กี่คน หากรื้อถอนป้ายนี้ออกก็น่าจะเป็นผลดีแก่ส่วนรวม…