Reporter&Thai Army แถลงข่าว

พ.อ.รุ่งคุณ โฆษก ทภ.3… แถลงขานรับนโยบายการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทาง…และปราบยาเสพติดชายแดนเหนือ

พ.อ.รุ่งคุณ โฆษก ทภ.3… แถลงขานรับนโยบายการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทาง…และปราบยาเสพติดชายแดนเหนือ

กองทัพภาคที่ 3 / กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3

 

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย ร้อยตรี หญิง ช่อเอื้อง สาสังข์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพภาคที่ 3 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวผลการดำเนินงานในภารกิจที่สำคัญของกองทัพภาคที่ 3 ตามนโยบายของกองทัพบก ในด้านการปราบปรามสกัดกั้นยาเสพติด อาวุธสงคราม และแรงงานต่างด้าว รวมถึงการร่วมบูรณาการกับส่วนราชการ หน่วยงานในทุกระดับในการรณรงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติภัยทางถนน และเข้มงวด ในการบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้พยายามดำเนินการอย่างจริงจัง ณ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง ในส่วนกองทัพภาคที่ 3 /ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3/ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติและแม่ทัพภาคที่ 3 มาปฏิบัติในห้วงสัปดาห์ที่สำคัญดังนี้

 

1. การสกัดกั้นยาเสพติด และอาวุธสงคราม

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายให้ ผู้บัญชาการทหารบก/เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้แจ้งให้ทุกหน่วยราชการทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร ร่วมมือกันสกัดกั้นยาเสพติดและอาวุธสงคราม โดยมีมาตรการที่เน้นย้ำดังนี้
1.1 การจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดร่วม เน้นความมั่นคง แข็งแรง และเข้มงวด ของการปฏิบัติ
1.2 เพิ่มการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจที่มีความถี่เพิ่มขึ้นของหน่วยงานความมั่นคงตาม
แนวชายแดน
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จึงได้เน้นย้ำไปยัง
ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด, ผู้บังคับหน่วยทหาร และตำรวจ
ในพื้นที่ ได้ร่วมกันปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด เพื่อขจัดปัญหายาเสพติดและอาวุธสงคราม
ให้หมดไปจากสังคมไทย

 

2. อุบัติเหตุจากรถตู้โดยสารเช่าเหมาคันที่ไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2561 เวลา 07.10 นาฬิกา ตามที่ได้เกิดเหตุรถตู้โดยสารเช่าเหมาคัน หมายเลขทะเบียน 33-2779 กรุงเทพมหานคร ที่รับผู้โดยสารชาวเมียนมาร์ จำนวน 14 คน จาก
จ.เพชรบุรี เพื่อจะไปส่งที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.แม่สอด จ.ตาก เสียหลักลงข้างทางชนกับต้นไม้
เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 6 ราย (รวมพลขับรถ) นั้น
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถตู้เช่าเหมาคันไม่ประจำทาง บรรทุกผู้โดยสารเกินที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งได้ตัดสัญญาณ GPS ที่ควบคุมพิกัด และความเร็วของรถออก จึงเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความเสียใจแก่ทุกฝ่าย กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จึงขอให้ทุกภาคส่วน ได้ช่วยกันรณรงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติภัยทางถนน และเข้มงวด
ในการบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้พยายามดำเนินการอย่างจริงจัง