Reporter&Thai Army นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

ทหาร ตำรวจ คุม ”ปุ๊” ยิง5ศพ ทำแผนอ้างแค้นไม่คืนเงิน

ทหาร ตำรวจ คุม ”ปุ๊” ยิง5ศพ ทำแผนอ้างแค้นไม่คืนเงิน

“เฉลิมเกียรติ” พร้อม พ.อ. ศุภฤกษ์ สถาพรผล คุม “ปุ๊” มือยิง 5 ศพ ทำแผน อ้างแค้นไม่คืนเงิน – แจ้ง 5 ข้อหาพบมีคดีโกง 30 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 เวลา 10.00 น. กองบังคับการควบคุมกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุตรดิตถ์ โดย พันเอก กฤษฎา ถาวรรัตน์ พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการมวลชนประจำอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เข้าร่วมสังเกตการณ์การนำตัวผู้ต้องหากรณีใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงภรรยาและครอบครัวภรรยาเสียชีวิต จำนวน 5 ศพ เหตุเกิดในพื้นที่ ตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มาดำเนินการเพื่อทำแผนประกอบสำนวนคดีและแถลงข่าว ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พันเอกศุภฤกษ์ สถาพรผล รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 , พันตำรวจเอก ดิษยเดช พัชรภูวดล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ และนายธาตรี บุญมาก นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เข้าร่วมการดำเนินการด้วย

จากนั้น เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุตรดิตถ์และตำรวจคุมตัว นายธีรพล ปิ่นอมร หรือ ปุ๊ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงครอบครัวของภรรยาเสียชีวิต รวม 5 ศพ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยใช้พื้นที่ด้านหลังของกองบังคับการเป็นสถานที่การทำแผนแทน เพราะกังวลว่าหากไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุจริง นายปุ๊ อาจจะถูกจากชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจมาจำลองการทำแผน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ แทน

 

 

 

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 เวลา 10:10 น. พันเอก ศุภฤกษ์ สถาพรผล รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ และฝ่ายปกครองจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้การต้อนรับ พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลน้ำริด อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ในโอกาสที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีและร่วมทำแผนประกอบคำรับสารภาพสำนวนคดี ของนายธีรพล ปิ่นอมร บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ 1 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงภรรยาและครอบครัวเสียชีวิต จำนวน 5 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย ในพื้นที่ หมู่ 1 และ หมู่ 2 ตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา จากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีไป จนกระทั่งถูกจับกุมได้ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2512 บริเวณกระท่อมร้างกลางสวนปาล์มในตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง หลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดอุตรดิตถ์ต่อไป

 

ทั้งนี้ ตลอดการทำแผน นายปุ๊ ได้สารภาพทุกข้อกล่าวหา นำชี้จุดต่างๆและอธิบายการก่อเหตุทุกประการ ซึ่งการจำลองเหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่นายปุ๊ มีปากเสียงกับภรรยา และพ่อตาที่โรงจอดรถ เรื่องทรัพย์สินที่ทุ่มเทให้ โดยมีการขอให้พ่อตาโอนรถคืนให้ แต่ภรรยาและพ่อตาบอกว่าให้ไปฟ้องร้องเอา พร้อมทั้งท้าทายให้ยิงตนเองเลย นายปุ๊ จึงได้ชักอาวุธปืนยิงพ่อตา ก่อนจะยิงภรรยา และไล่ยิงน้องเมีย กับคู่เขยได้รับบาดเจ็บ

 

ขณะที่ อีกจุดหนึ่ง เป็นการจำลองเป็นบ้านพักของแม่ยาย ซึ่งนายปุ๊ขับรถออกจากบ้านหลังแรกไปบ้านหลังที่ 2 เมื่อไปถึงได้เข้าไปยิงแม่ยาย และพี่สาวฝาแฝดของแม่ยายที่กำลังนั่งทานข้าวด้วยกัน ก่อนจะออกมาพบพี่สาวอีกคนหนึ่งของแม่ยายที่อยู่หน้าบ้าน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปที่จังหวัดพิษณุโลก ก่อนจะทิ้งรถไว้โรงแรมแห่งหนึ่ง และยืมรถจักรยานยนต์แม่บ้านขับออกไปทิ้งไว้หน้าโรงลิเก และโบกรถกระบะที่ขับผ่านขอติดรถเข้ากรุงเทพฯ โดยให้ค่าน้ำมัน 1,000 บาท แต่ระหว่างทางนายปุ๊ได้ขอลงที่จังหวัดพิจิตร ก่อนหลบหนีไปยังจังหวัดระนองและถูกจับกุม

ในการจำลองเหตุการณ์มี พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพันเอก ศุภฤกษ์ สถาพรผล รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมสังเกตการณ์ด้วยหลังการจำลองเหตุการณ์ ตำรวจได้แจ้ง 5 ข้อหากับ นายปุ๊ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง , พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการฝากขังต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ทันที

พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ระบุว่า หลังเกิดเหตุตำรวจหลายหน่วยงานสนธิกำลัง ร่วมกันติดตามจับกุมตัวนายปุ๊ได้ พร้อมกับอ้างว่า ที่ก่อเหตุเกิดจากความแค้นและบันดาลโทสะ เพราะที่ผ่านมามีการทะเลาะกันมาโดยตลอดรวมถึงเรื่องทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาขอคืนจากครอบครัวผู้ตาย ส่วนกระแสข่าวเรื่องเงิน 30 ล้านบาท ของผู้ต้องหา นั้น จะทำการสืบสวนขยายผลต่อไปว่า มีจริงหรือไม่ และได้เงินมาจากไหน เพราะจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหาถูกฟ้องร้องคดีฉ้อโกงเงิน ในพื้นที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ด้วย

https://youtu.be/qe409TjYK-A

https://youtu.be/Bm0-2Q375TY