นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย ประธานองค์กรตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นภาคอีสาน ได้ลงพื้นที่เขตเทศบาลตำบลน้ำปลีกอำเภอเมืองจังหวัดอำนาจเจริญ

วันนี้เมื่อเวลา 11.00 น นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย ประธานองค์กรตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นภาคอีสาน ได้ลงพื้นที่เขตเทศบาลตำบลน้ำปลีกอำเภอเมืองจังหวัดอำนาจเจริญพร้อมด้วยท่านอดีตอัยการโรเจอร์ได้ผันตัวเองเป็นทนายความ และทีมงานลงพื้นที่สืบต่อเนื่องเกี่ยวกับประเด็นโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลการลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วยการปรับปรุงแนวทางในการที่จะยกระดับในการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนที่คัดค้านและไม่เห็นด้วยกับโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงงานน้ำตาล รวมไปถึงการยึดลำห้วยเป็นของตัวเอง

ความคืบหน้าล่าสุดดังกล่าวพี่น้องประชาชนฝ่ายคัดค้านซึ่งมีอยู่หลายชุมชนและได้พบกับแกนนำชุมชนที่ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับการวางแผนหลังจากที่มีการร้องเรียนในประเด็นที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวลและโรงงานน้ำตาลซึ่งประเด็นที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาตั้งแต่พ.ศ 2558 จนถึงณเวลาปัจจุบันคำร้องดังกล่าวที่ได้มีการส่งไปยังหน่วยงานราชการหลายพื้นที่รวมแม้กระทั่งถึงท่านนายกรัฐมนตรีแต่ดูเหมือนว่าความคืบหน้าหรือการตอบข้อร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรและการเข้าเพื่อหารือในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับประเด็นที่จะเกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชนและสวัสดิภาพทางร่างกายและจิตใจกลายเป็นเรื่องที่ชาวบ้านที่ทำการต่อต้านและคัดค้านได้รอแล้วรอเล่าจนกระทั่งล่าสุดจากการติดตามซึ่งได้ขึ้นในที่สูงเพื่อส่องลงไปยังพื้นที่บริเวณของการก่อสร้างปรากฏว่าทราบว่าในขณะนี้โรงงานที่มีการก่อสร้างกำลังแล้วเสร็จและคงจะมีการเริ่มผลิตในอีกไม่กี่วันประเด็นที่เกิดขึ้นดาร้องเรียนของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและได้รับผลกระทบหลายชุมชนทั้งในเรื่องมลภาวะเป็นพิษทางอากาศทั้งเรื่องของการขาดแคลนน้ำผึ้งจะถูกแย่งแรงน้ำรวมไปถึงมลภาวะน้ำเสียที่จะเล็ดลอดหรืออาจจะแทรกซึมไปตามน้ำบาดาลหรือลำห้วยธรรมชาติที่พาดผ่านระหว่างที่ดินของการก่อสร้างทั้ง 2 โรงงานอุตสาหกรรม การออกมาสะท้อนเพื่อให้เห็นปัญหาดังกล่าวดูเหมือนเป็นความเย็นชาของทางภาครัฐที่จะใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองปล่อยให้เกิดขึ้นจะด้วยเหตุผลองค์ประกอบใดก็แล้วแต่ซึ่งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยย่อมมีเหตุผลของแต่ละฝ่ายแต่มีสิ่งหนึ่งที่พี่น้องประชาชนฝ่ายคัดค้านได้พยายามศึกษาและพยายามสะท้อนให้คนทั้งประเทศได้เห็นการอนุญาตการใช้อำนาจรัฐที่เกิดขึ้นล้วนนำมาซึ่งความสงสัยของพี่น้องประชาชนคนอำนาจเจริญที่ไม่เห็นด้วยรวมไปถึงประเด็นหวยน้ำสาธารณะที่ไหลพาดผ่านที่ดินและอีกหลายกรณีซึ่งหลังต่อจากนี้ไปจะต้องปกปิดเป็นความลับเนื่องด้วยว่าการยกระดับของการต่อสู้ของชาวบ้านเห็นทีจะต้องพึ่งศาลสถิตยุติธรรมเพื่อให้เป็นทางออกส่วนอนาคตจะเป็นเช่นไรก็สุดแล้วแต่วันนี้นายจำรูญศักดิ์จันทรมัย ได้ลงพื้นที่และได้รวบรวมเอกสารในการที่จะหยิบยกขึ้นสู้คดีในชั้นศาลปกครองและศาลอาญาทุจริตก็ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชนที่ไม่เห็นด้วยและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างของ 2 โรงงานดังกล่าว การฟ้องร้องที่จะเกิดขึ้นทั้ง 2 ศาลก็จะเป็นการฟ้องการใช้อำนาจของรัฐที่กระทำนั้นว่าถูกต้องหรือไม่รวมไปถึงการฟ้องร้องต่อศาลอาญาทุจริตว่ารักกระทำนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะประเด็นที่ไม่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มแรกการทำประชาพิจารณ์ที่ไม่เป็นไปตามระเบียบระบบนำพาให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เกี่ยวกับการเรียกไปกินโต๊ะจีนแล้วไปลงลายมือชื่อ ถูกนำไปกล่าวอ้างว่านี่คือการยอมรับผลของการประชาพิจารณ์ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในหัวใจเสมือนถูกเหยียบย่ำอย่างไร้ค่าของความเป็นคนและการได้รับผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจหนทางการเรียกร้องเพื่อหาความเป็นธรรมกับชีวิตและทรัพย์สินกลับถูกเพิกเฉยจากหน่วยงานของรัฐวันนี้เป็นอีกหนึ่งเส้นทางและอาจจะเป็นหนทางสุดท้ายของผู้ร่วมต่อต้านและคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล แล้วโรงงานน้ำตาลต้องคงสุดแล้วแท้แต่ศาลอาญาและศาลปกครอง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นการใช้โอกาสเส้นทางของการเมืองก็ยังคงให้ความมั่นใจต่อพรรคไทยศรีวิไลย์ที่มีคุณมงคลจิตเป็นสมาชิกสภาผู้แทนและอยากจะให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภาเพราะมีประเด็นการใช้อำนาจรัฐที่พี่น้องประชาชนบอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อการกระทำดังกล่าวจึงเป็นอีกเส้นทางหนึ่งของการต่อสู้และฝากความหวังไว้กับพรรคไทยศรีวิไลย์รวมไปถึงจากนี้ไปจะพยายามสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องคนจังหวัดอำนาจเจริญได้เข้าใจและรู้ถึงสิ่งที่จะกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงอาชีพเกษตรกรรมที่คนจังหวัดอำนาจเจริญได้รับการส่งเสริมให้ปลูกข้าวหอมมะลิซึ่งเป็นที่โด่งดังและส่งออกไปหลายประเทศจะพยายามให้การเรียนรู้และให้ทุกคนได้ตระหนักรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาวัฒนธรรมและอาชีพเกษตรกรรมโดยเฉพาะในเรื่องการปลูกข้าวหอมมะลิการอาศัยแหล่งน้ำลำเซบายที่จะต้องถูกแย่งในอนาคตอันใกล้นี้สิ่งที่จะต้องบอกให้กับคนอำนาจเจริญจังหวัดยโสธรรวมไปถึงอุบลราชธานีที่อาศัยลำเซบายเป็นแหล่งเลี้ยงชีวิตทางด้านอาชีพเกษตรกรรมและการประมงต่อจากนี้ไปจะสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อปลูกจิตสำนึกให้คุณอำนาจให้คนจังหวัดยโสให้คนจังหวัดอุบลราชธานีได้เห็นสายเลือดหลักลำเซบายที่หล่อเลี้ยงคนทั้ง 3 จังหวัดมาทุกยุคทุกสมัยนะวันนี้กำลังถูกทำลายถูกแย่งและสิ่งที่อยากจะให้การเรียนรู้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่รวมไปถึงคนอำนาจเจริญก่อนนะวันนี้ต่อจากนี้ไปชุมชนเทศบาลตำบลน้ำปลีกและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจะพยายามปลูกต้นไม้ทดแทนของเดิมที่ถูกตัดทิ้งไปซึ่งเป็นที่น่าเสียดายต้นไม้ยางนาที่เป็นต้นไม้คู่บ้านคู่เมืองของคนอำนาจเจริญได้ถูกตัดทิ้งมากกว่า 80 ต้นซึ่งต้นไม้ดังกล่าวถูกกล่าวอ้างว่าอยู่บนที่ดินของโรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าวซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นคนพื้นที่ได้บอกกล่าวอย่างชัดเจนว่าต้นไม้ยางนาเป็นต้นไม้ที่คู่บ้านคู่เมืองของคนชุมชนน้ำปลีกมาหลายชั่วอายุคนและก็เกิดขึ้นตามแนวของลำห้วยเป็นที่น่าเสียใจและเป็นที่น่าเสียดายจึงอยากจะบอกและขอนำเรียนมายังท่านทนายโรเจอร์อดีตอัยการได้ทำหนังสือสอบถามไปยังทรัพยากรป่าไม้หรือป่าไม้เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงว่าต้นไม้ดังกล่าวได้ถูกจดบันทึกหรืออยู่ในแปลงที่ดินของโรงงานอุตสาหกรรมหรือไม่เพราะข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นขัดแย้งกันกับในสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่ชาวบ้านได้ไปสอบถามที่ดินจังหวัดอำนาจเจริญพบปรากฏว่าลำห้วยที่มีอยู่ 3ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ลำห้วยที่มีอยู่ 3 ฮ่วยยังอยู่ในขั้นตอนของการรองบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำปลีกซึ่งกล่าวอ้างว่ายังไม่มีการตั้งงบประมาณดังกล่าวประมาณ 100,000 บาทแต่เมื่อปีประมาณพศ 2561กลับมีการออกใบโฉนดที่ดินไม่มีร่องน้ำหรือลำห้วยสาธารณะแต่อย่างใดและทราบจากการถ่ายภาพอากาศโดยใช้โดมเป็นตัวถ่ายภาพยังเห็นร่องน้ำสาธารณะอย่างชัดเจนแต่เมื่อใบโฉนดสมัครใหม่ที่มีการออกประมาณ 2561 ปรากฏว่าถูกทับถมด้วยดินและปรับเป็นพื้นที่ของทางโรงงานอุตสาหกรรมไปโดยปริยายข้อเท็จจริงดังกล่าวชาวบ้านมองว่าเป็นการรุกล้ำลำห้วยสาธารณะและขออนุญาตนำเรียนฝากไปยังท่านสสมงคลกิตต์สุขสันต์ธรานนท์ ให้ช่วยเหลือเกี่ยวกับประเด็นเรื่องของการรังวัดลำห้วยสาธารณะที่มีทั้งหมด 3 ลำห้วยจะด้วยระบบกระบวนการใดก็แล้วแต่และขอความเมตตาสงสารได้ดำเนินการให้ที่ดินจังหวัดหรืออธิบดีที่ดินได้ดำเนินการสั่งการให้กรมที่ดินลงมาตรวจรางวัลชี้แนวเขตของลำห้วยสาธารณะอย่างเร่งด่วน การวอนขอร้องขอการร้องเรียนการร้องทุกข์การร้องขอความเมตตาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบชาวบ้านก็ยังรอคอยความหวังดังกล่าวซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบมาตราบเท่าทุกวันนี้จึงขอวิงวอนพี่น้องคน 3 จังหวัดได้ร่วมกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน 1 ทางออกที่เป็นทางออกสุดท้ายจากการแนะนำของนายจำรูญศักดิ์จันทรมัย ถึงแม้แต่อนาคตข้างหน้าไม่ทราบว่าระบบสถิตย์ยุติธรรมจะออกมาอย่างไรแต่ก็ไม่มีทางเลือก และการคัดค้านทุกคนมีกำลังใจที่ดีพร้อมต่อสู้เพื่อเรียกร้องคืนธรรมชาติคืนผืนแผ่นดินคืนความสุขให้กับคน 3 จังหวัดและดำรงคงไว้ให้กับคนรุ่นหลานสืบไป