ตะลึง… โคตรเยอะ!! แม่ทัพภาค 3 นำแถลงโชว์ผลงาน จับยาบ้า – ไอซ์บิ๊กล๊อต ที่เวียงเชียงรุ้ง กว่า 8 ล้านเม็ด มูลค่ามหาศาล….


ตะลึง… โคตรเยอะ!! แม่ทัพภาค 3 นำแถลงโชว์ผลงาน จับยาบ้า – ไอซ์บิ๊กล๊อต ที่เวียงเชียงรุ้ง กว่า 8 ล้านเม็ด มูลค่ามหาศาล….

กองทัพภาคที่ 3 จับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด
กว่า 8 ล้านเม็ด

กองทัพภาคที่ 3 โดย กองบังคับการควบคุมพื้นที่พิเศษรอยต่อ 4 อำเภอ จังหวัดเชียงราย (ชุดปฏิบัติการเวียงเชียงรุ้ง) จับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด กว่า 8 ล้านเม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบ จำนวน 41 กระสอบ ณ จุดตรวจ/จุดสกัดชั่วคราว บริเวณบ้านป่าสักงาม หมู่ 9 ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียง-เชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย

พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, พลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงราย , พันเอก สันติ สุขป้อม รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.), พันเอก พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย, พันตำรวจเอก พศวีร์ โชติเทียนชัยวัต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย , พันตำรวจเอก ณัชทสิษฐ์ บุญมาก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวียงเชียงรุ้ง, นายวาทิน ดำรงเลาหพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 , และ นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ร่วมกัน “แถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด กว่า 8 ล้านเม็ด ” ณ กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรทหารม้าที่ 3 ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2561

เมื่อ 18 พฤษภาคม 2561 เวลา 21 นาฬิกา กองทัพภาคที่ 3 โดย กองบังคับการควบคุมพื้นที่พิเศษรอยต่อ 4 อำเภอ จังหวัดเชียงราย ได้จัดกำลัง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี บริเวณเส้นทาง บ้านป่าสักงาม หมู่ที่ 9 ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย จนกระทั่งเวลาเวลา 21 นาฬิกา 45 นาที ตรวจพบผู้ต้องสงสัยขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว ขอทำการตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัยได้ขับรถคันดังกล่าว หลบหนีฝ่าจุดตรวจ/จุดสกัดทางยุทธวิธี ซึ่งขณะที่ทำการหลบหนีไป ผู้ต้องสงสัยได้ขับรถตกถนน ห่างจากจุดตรวจ/จุดสกัด ประมาณ 350 เมตร และได้อาศัยความมืดหลบหนี ไปตามภูมิประเทศ ซึ่งจากผลการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบยาเสพติด จำนวน 41 กระสอบ โดยเป็น ยาบ้า 39 กระสอบ จำนวนประมาณ เจ็ดล้านแปดแสนเม็ด และไอซ์ 2 กระสอบ น้ำหนักห้าสิบกิโลกรัม

สำหรับยาบ้าที่ตรวจยึดได้นั้น คาดว่ามาจากชนกลุ่มน้อย ที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย โดยอาศัยช่องทางต่างๆ จากนั้นจึงลำเลียงด้วยยานพาหนะ เข้าสู่พื้นที่ตอนในต่อไป

ผลการจับกุมยาเสพติดที่สำคัญในพื้นที่ชายแดน และพื้นที่พิเศษ ห้วง 7 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ถึงเดือนเมษายน 2561

ทั้งฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้และร่วมจับกุม จำนวน ยี่สิบเอ็ดล้านแปดแสนเม็ดเศษ ถ้ารวมครั้งนี้ ฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้อีก จำนวนเจ็ดล้านแปดแสนเม็ด ทำให้สามารถจับกุมยาบ้าทั้งหมดยี่สิบเก้าล้านหกแสนเม็ดเศษ สำหรับไอซ์ในห้วง 7 เดือนที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้และร่วมจับกุม จำนวน แปดร้อยหกสิบเจ็ดกิโลกรัมเศษ ถ้ารวมครั้งนี้ด้วย ฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้อีกห้าสิบกิโลกรัม ทำให้สามารถจับกุมไอซ์ทั้งหมด เก้าร้อยสิบเจ็ดกิโลกรัมเศษ

ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์ของการจับกุมในครั้งนี้ เกิดจาก แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3

ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และให้มีการเพิ่มความเข้มข้นงานด้านการข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โต๊ะข่าวที่เฉพาะเจ้าหน้าที่จริงๆ ต้องวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านและทันเวลา รวมทั้งการเพิ่มมาตรการเข้มงวด ที่มุ่งเน้นการสกัดกั้น ในลักษณะการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี โดยวิธีการปรับเปลี่ยนเวลา

ตามสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการลาดตระเวน เฝ้าตรวจตามเส้นทางในภูมิประเทศ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 เปิดยุทธการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง

ตามนโยบายของรัฐบาล และกองทัพบก ที่กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สำคัญ ที่ต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และในแต่ละภาคของประเทศไทย นั้น ทุกภาคส่วน ทั้ง ทหาร ตำรวจ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

และประชาชน ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนและยาวนาน