Reporter&Thai Army Uncategorized ภัยพิบัติ

ระทึกทุบกระจกช่วยผู้ประสบภัย……. รองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 นำจิตอาสา พร้อมกำลังพลกว่า 40 นาย เดินลุยน้ำช่วยชาวบ้านติดค้างในรถที่พลิกคว่ำจากระแสน้ำหลาก กลางทุ่งนา เนินมะปราง พิษณุโลก….

ระทึกทุบกระจกช่วยผู้ประสบภัย……. รองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 นำจิตอาสา พร้อมกำลังพลกว่า 40 นาย เดินลุยน้ำช่วยชาวบ้านติดค้างในรถที่พลิกคว่ำจากระแสน้ำหลาก กลางทุ่งนา เนินมะปราง พิษณุโลก….

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2562 เวลา 02.00 น. ศูนย์บรรเทาสารภัยมณฑลทหารบกที่ 39 จัดกำลังกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 4 ตำบล ของอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ต่อมาได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยว่าพบชาวบ้านจำนวน 1 คน ติดค้างอยู่บนรถยนต์ที่ถูกกระแสน้ำพัดตกจากถนนไปอยู่บริเวณกลางทุ่งนาห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและความมืดมิด พันเอก วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง รองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 จึงได้ระดมกำลังพล พร้อมจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. จังหวัดพิษณุโลก จากจุดอำนวยการชั่วคราว พร้อมรถบรรทุก FTS และเรือท้องแบน เร่งเข้าให้การช่วยเหลือ แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรงและมีร่องน้ำวนจึงทำให้รถบรรทุก FTS ไม่สามารถขับเคลื่อนลุยน้ำไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นเรือท้องแบนค่อยลอยลำเข้าไปจุดเกิดเหตุจนกระทั่งไปถึงบริเวณกลางทุ่งนาฉายไฟพบเห็นผู้ประสบภัยนั่งอยู่บนรถยนต์จำนวนหนึ่งบนรถที่พลิกคว่ำและมีผู้ติดอยู่ในรถจำนวน 1 คน

จากนั้น รองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการนำกำลังพลกว่า 40 นาย ลุยน้ำไปตามจุดที่สูงพร้อมทั้งมัดเชือกยึดโยงยึดตรึงไปทีละช่วงจนถึงรถยนต์ที่จมน้ำอยู่และสามารถทุบกระจกนำตัว นาย สินชัย แก้ววิเศษ ผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในรถที่พลิกคว่ำกับออกมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 03.15 น. รวมระยะเวลาที่ผู้ประสบภัยติดค้างรถตั้งแต่ 20.00 น. จนถึง 03.00 น. รวมกว่า 7 ชั่วโมงเศษ ใช้เวลาในการปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้ 1 ชั่วโมง

สำหรับชาวราษฎรผู้ประสบภัยคนดังกล่าวที่ติดค้างอยู่ในรถ ท่ามกลางกระแสน้ำที่เย็นจัดนานกว่า 7 ชั่วโมง นั้น ภายหลังนำตัวออกมาพบมีสภาพร่างกายอ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรงเดินไม่ไหว เมื่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาถึงกองอำนวยการชั่วคราว ได้นำผ้าห่มกันหนาว มาเช็ดตัวเพิ่มความอบอุ่น จนอาการดีขึ้น และส่งทำการรักษา ณ โรงพยาบาลวังทองต่อไป ทั้งนี้ ราษฎรผู้ประสบภัยคนดังกล่าว รู้สึกยินดีปลื้ม รู้สึกเหมือนมีชีวิตใหม่ขอบคุณทหารทุกนายที่อุตส่าห์ลุยน้ำที่กระแสน้ำที่ไหลแรง แม้กระทั่งเรือท้องแบนและรถยนต์ขนาดใหญ่ยังเข้าถึงไม่ได้ โดยรู้สึกดีใจมากเพราะคิดว่าตัวเองจะไม่รอดชีวิตกลับมาหาครอบครัว ขณะขอบคุณน้ำตาของผู้ประสบภัยไหลออกมาด้วยความตื้นตันใจ