6 มิถุนายน 68 ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานกรรมการเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายยงพันธ์ พันธ์ดงยาง รองประธานฯ นายประดิษฐ์ ศรีประสิทธิ์ ดร.ทักษิณ สิทธิศักดิ์ ดร.กัลญา อุปัชฌาย์ นายวิทวัส บุญทา ดร.คมฤช พวงศรีเคน และผศ.ดร.สุรสิทธิ์ ไกรสิน กรรมการและเลขานุการ ลงพื้นที่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ณ หอประชุมบ้านหนองคำ ตำบลภูเขาทอง อำเภอหนองพอก พร้อมด้วยแกนนำเครือข่ายคณะกรรมการป.ป.ช.ภาคประชาสังคม อำเภอหนองพอก จำนวน 20 คน ติดตามสอดส่งโครงการโครงการขุดลอกห้วยบักโปก ระยะทาง 660 เมตร จากสามแยกลำห้วยอ้อย ขุดลอกเสริมคันคลองทั้งสองฝั่ง ขนาดคันคลองกล่าว 20 เมตร ลึก 2 เมตร พร้อมวางท่อระบายน้ำและอาคารหน้าท่อ จำนวน 3 จุด โดยที่ผ่านมาชาวนาบ้านหนองคำใหญ่ หมู่ 2 และบ้านหนองคำ หมู่ 10 ได้รับผลกระทบนาข้าวช่วงฤดูฝนน้ำหลาก น้ำล้นคันพนังกั้นน้ำไหลเข้าท่วมนาข้าวเสียหายจำนวนมากทุกปี ชาวบ้านจึงอยากให้ทาง คณะกรรมการเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบและช่วยหาแนวทางแก้ไข
ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานกรรมการเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่สอดส่องดูแลสมบัติสาธารณะ คือ ลำห้วยบักโปก ของชาวตำบลภูเขาทอง ณ บ้านหนองคำใหญ่และบ้านหนองคำ ที่รับน้ำจากภูเขา คือภูขี้สูด ไหลลงลำห้วยเมื่อฤดูน้ำหลากน้ำเต็มลำห้วยทำให้บริเวณที่เป็นแอ่งรับน้ำไม่สามารถระบายน้ำไปตามลำห้วยได้ เนื่องจากไม่มีประตูระบายน้ำ น้ำก็จะออกด้านข้างของลำห้วย ซึ่งทางเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมอำเภอหนองพอก ได้เสนอแนวทางแนวให้ทำทางน้ำล้น หรือ สปิลเวย์ ระบายน้ำ เพิ่มอีกที่คันพนังกั้นน้ำ จำนวน 2 จุด เพื่อระบายน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยพุงใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เป็นอ่างเก็บน้ำสาธารณะในพื้นที่อำเภอหนองพอก อย่างเหมาะสมและเป็นที่ท่องเที่ยวที่เช็คอินจุดสำคัญของอำเภอหนองพอกอีกด้วย
ในเบื้องต้นได้เสนอให้กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ในพื้นที่ หรือขอสนับสนุนงบประมาณจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ เพื่อเสนอให้กระทรวง ทบวง กรม ที่รับผิดชอบ เข้ามาช่วยดูแลต่อไป ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าถ้าโครงการนี้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรได้
พี่น้องเกษตรกรก็จะสามารถนำน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขามาใช้ในการเกษตรทั้งการทำนา การปลูกพืชระยะสั้น ของพี่น้องเกษตรกรตำบลภูเขาทอง ทั้งหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 10 สามารถใช้ในการเกษตรได้ สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต อย่างยั่งยืนต่อไป และคณะกรรมการเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด จะได้นำเสนอไปยัง สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด และกองทุน ป.ป.ช. ต่อไป
สมนึก บุญศรี รายงาน
