9 มิถุนายน 2568 ที่แปลงใหญ่ทุเรียนเมืองลับแล ม.10 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายอเนก ชื่นอารมณ์ เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดเวทีเชื่อมโยงการผลิต การตลาด และประชาสัมพันธ์ ทุเรียนเมืองลับแล โครงการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน และบริการมูลค่าสูง ปี 2568 ส่งเสริมการทำการเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) การบริหารจัดการพืช ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาสู่มาตรฐานสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า เกิดสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น พัฒนาขยายผลสู่เกษตรกรต้นแบบในพื้นที่ และพัฒนาต่อยอดสู่ Young Smart Farmer, Smart Farmer เชื่อมโยงเครือข่าย ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่ม เพื่อให้เกิดการบริหารจัดระบบการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทำให้เกิดระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมูลค่าให้สามารถแข่งขันได้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้ากลุ่มทุกกลุ่ม ผู้แทนหน่วยงานภาคเอกชน ผู้แทนองค์กรเกษตรกร ประธาน/คณะกรรมการ และสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนเมืองลับแล
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนให้ภาคการเกษตรสามารถแข่งขันได้ ตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยการส่งเสริม “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เป็นแนวทางในการส่งเสริมภายใต้ โครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ” 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง” ด้านพืช แมลงเศรษฐกิจ และบริการ เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโยบายการส่งเสริมการเกษตรสู่ภาคการเกษตร “ให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้น” ด้วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เกษตรกรในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้การรับรองมาตรฐานอันเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร สิ่งสำคัญในการผลิตที่เกษตรกรควรให้ความสำคัญเพื่อการส่งออกคือการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมีการรับรองมาตรฐาน
นายเอนก ชื่นอารมณ์ เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า การจัดเวทีเชื่อมโยงการผลิต การตลาด และประชาสัมพันธ์ ทุเรียนเมืองลับแล เป็นการบูรณาการเป้าหมายในการพัฒนาโครงการ เพื่อประเมินผลรายได้เกษตรกรตามตัวชี้วัดโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง โดยส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถวิเคราะห์ศักยภาพและโอกาส วางแผนการผลิต ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ พัฒนาสินค้าให้ได้การรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร หรือมาตรฐานที่สูงขึ้น ตลอดจนเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการผลิตของกลุ่มเกษตรกร เพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรและบริการเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยงตลาดการบริหารงานและการมีส่วนร่วม ตั้งแต่ในระดับพื้นที่และส่วนกลางในการขับเคลื่อนและพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรตรกรให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็งตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” อย่างยังยืน
นาคา คะเลิศรัมย์ รายงาน
