ข่าว ปัตตานี ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

เศรษฐกิจ-สุขภาพ-การศึกษา 3 มิติหลัก เคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจชายแดนนรา-ยะลา

นายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรมถอดบทเรียนและขับเคลื่อนนโยบาย ระเบียงเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดยะลาและนราธิวาส โดยมี รศ.ดร.วสันต์ พลาศัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้แทนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูล สำนักงานจังหวัดยะลา ผู้แทนจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการด้านการค้าชายแดนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมธารพลอย สวนอาหารริมน้ำ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยมนร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจชายแดนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในจังหวัดยะลาและนราธิวาส โดยมีเป้าหมายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจชายแดนให้เกิดความยั่งยืน


รศ.ดร.วสันต์ พลาศัย รองอธิการบดีมนร.และหัวหน้าโครงการวิจัยการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจฯ กล่าวถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาที่ได้เห็นผลลัพธ์เชิงบวกหลายประการ
“ด้านสุขภาพ ได้พัฒนาระบบการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย NCDs ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน โดยมีคะแนนความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ในมิติด้านการเรียนรู้ การสื่อสารและการตลาดดิจิทัลในพื้นที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และในมิติด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมีความหลากหลายตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไทย-มาเลเชียยังได้ชี้ให้เห็นศักยภาพที่สำคัญหลายด้าน


หากยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ จากผลการศึกษาพบว่าประชากรยังเผชิญปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่ยังชัดเจน และการใช้ประโยชน์จากการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ยังไม่เต็มศักยภาพ การมีข้อเสนอเชิงนโยบายที่เป็นรูปธรรมและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาที่พบจากการศึกษา ได้แก่ การพัฒนาระบบสุขภาพที่มุ่งเน้นการป้องกันและดูแล NCDS อย่างเป็นระบบ การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาผ่านการพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากสถานะเขตเศรษฐกิจพิเศษ นอกจากนี้ ควรมีกลไกการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งกับมาเลเชีย โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจในอนาคต เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพและความมุ่งมั่นของทุกคนจะสามารถสร้างระเบียงเศรษฐกิจชายแดนที่เข้มแข็ง ยั่งยืน และนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส “
รองผวจ.นราธิวาส กล่าวว่าต้องยอมรับถึงความท้าทาย และอุปสรรคที่ต้องร่วมกันแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน กระบวนการอำนวยสะดวกทางการค้า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนต่างๆ
“เรามีจุดภูมิศาสตร์ชายแดน นราธิวาสเป็นหนึ่งในสามจังหวัดที่มีด่านการค้าชายแดนซึ่งเป็นข้อได้เปรียบ มีการคมนาคมทุกช่องทาง ทั้งระบบราง อากาศ และทางราบ สัมพันธ์ทั้งสามจังหวัดอย่างแยกกันไม่ออก มี 6 อำเภอติดชายแดนที่มีความพร้อมเชื่อมต่อเศรษฐกิจ
นราธิวาสมีหลายโครงการสำคัญทั้งการก่อสร้างสะพานที่สุไหงโก-ลก เชื่อมต่อความเจริญไทย อินโด มาเลย์ ในปี 70 เราจะตอบรับยังไงกับสะพานที่สร้างเสร็จ อีกโครงการคือ เส้นทางเศรษฐกิจท่องเที่ยวกับอันดามันจากสงขลามานราธิวาสไปยังกลันตัน ร้านค้า แหล่งท่องเที่ยว ทำยังไงให้เรามีสินค้ามากขึ้น กระจายไปยังจังหวัดอื่น แลกเปลี่ยน เพิ่มมูลค่าสินค้า มาเลย์ขยับเรื่องรถไฟจากเคแอลมายังกลันตันแล้ว จะเชื่อมโยงมายังการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อย่างไร”
รองผวจ.นราธิวาส กล่าวถึงการร่วมกันวิเคราะห์ถอดบทเรียน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการมีส่วนร่วมส่วน จากทุกภาคส่วนว่าเห็นถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมที่จะมุ่งสู่การขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจชายแดนให้ประสบความสำเร็จ การระดมความคิดเห็น และการแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้ที่มีประสบการณ์จะนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เป็นรูปธรรม สามารถนำไปใช้ได้จริง และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริงได้ในอนาคต
“เป็นจุดเริ่มของการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากขึ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง การพัฒนาระบบสุขภาพเชิงป้องกัน การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การเพิ่มประสิทธิภาพเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการใช้โอกาสจากความร่วมมือกับมาเลเซียต่อไป ความท้าทาย ปัญหา อุปสรรค โครงสร้างพื้นฐาน กระบวนการภาษี เราอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ต้องมาทบทวนว่าจะเอาอย่างไรในเขตระเบียงเศรษฐกิจอย่างแท้จริง”
จากการระดมความเห็นใน 3 มิติหลักคือ เศรษฐกิจ สุขภาพและการศึกษา ซึ่งมิติเศรษฐกิจเน้นการท่องเที่ยว ทำอย่างไรให้เม็ดเงินเข้ามาอยู่ในพื้นที่จากชายแดนมาเลย์มีเม็ดเงินมหาศาล การท่องเที่ยวต้องใช้โซเชี่ยลให้มากขึ้น รวมทั้งให้แรงงานต้มยำไปทำงานอย่างถูกกฎหมายเพื่อเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ รวมทั้งมีศูนย์รวมข้อมูลส่งเสริมเศรษฐกิจพื้นที่
ในมิติสุขภาพ ควรบูรณาการการทำงานร่วมกัน จาก 3 ปัญหาหลักคือ 1.แม่เสียชีวิต ฝากครรภ์ไม่ครบตามเกณฑ์ ติดตาม แบ่งเป็น 3 โซน อบรมก่อนสมรส 2.โรค NCDs กระทบต่อการดำเนินชีวิต มีบริการเชิงรุกและรับ ระบบเทเลวิลซี ปรึกษาหมอ ส่งยาให้ผู้ป่วยที่บ้าน และใช้บัตรประชาชนไปรับยาได้ 3.ปัญหาวัคซีน ขาดการตระหนักเรื่องโรคระบาด ต้องสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงง่ายด้วยภาษาท้องถิ่น เร่งรัดฉีดวัคซันเชิงรุก ในด้านเศรษฐกิจสุขภาพ พัฒนาสถานประกอบการให้ได้รับรองมาตรฐาน และพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีมาตรฐาน ซึ่งยังขาดสถานประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ในพื้นที่
ด้านมิติการศึกษา เพิ่มทักษะภาษาอย่างจริงจัง ต้องยกระดับการศึกษาเช่นจบม.6 จะพัฒนาด้านไหนให้ชัดเจน โดยเน้นคนเป็นหลัก นโยบายตามมา

ตอริก สหสันติวรกุล  รายงาน