13 มิถุนายน 2568 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี หรือ Karenni Army / KA เปิดเผยว่า สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่รัฐคาเรนนี/คะยา ปัจจุบันยังคงมีการสู้รบระหว่างกองกำลังผสมคาเรนนีประกอบด้วย KA , KNDF , KNPLF , KNSO , PDF และ PNLA กลุ่มพันธมิตรปาโอ กับทหารเมียนมาในพื้นที่เมืองปาย หรือเมืองโมเบีย ซึ่งอยู่ในรัฐฉานรอยต่อกับรัฐคาเรนนี /คะยา โดยจุดที่มีการสู้รบดังกล่าว เป็นเส้นทางที่ทหารเมียนมาจะส่งกำลังเสริมเข้ามาในเมืองลอยก่อว์ เมืองหลวงของรัฐคาเรนนี/คะยา โดยพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีการสู้รบอย่างหนัก ปัจจุบัน มีทหารเมียนมาหลงเหลือในรัฐคาเรนนี ไม่มากนัก ใน 3 พื้นที่คือ เมืองลอยก่อว์ , เมืองบอลาแคะ และเมืองผาซอง ส่วนพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย ทหารเมียนมาที่ตั้งฐานปฏิบัติการทางทหาร ได้ถูกกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนีกวาดล้างจนไม่มีทหารเมียนมาประจำการตามแนวชายแดนที่ติดกับ จ.แม่ฮ่องสอน แต่อย่างใด ซึ่งการที่ทางกองทัพคาเรนนีสามารถกวาดล้างทหารเมียนมาได้สำเร็จ ส่งผลให้การค้าระหว่างประชาชนไทยและประชาชนชาวคาเรนนี ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากไม่ต้องถูกกักตรวจสินค้าและเรียกเก็บภาษีใต้ดินอีกต่อไป
ทางด้านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รายงานภาวะการค้าชายแดน ประจำเดือนเมษายน 2568 ว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทย-สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดือนเมษายน 2568 มีมูลค่าการค้าชายแดนรวมทั้งสิ้น 192.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (MOM) 39.67 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.93 (เดือนมีนาคม 2568 มูลค่าการค้าชายแดน 152.97 ล้านบาท) และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YOY) มูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้น 153.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 395.47 (เดือนเมษายน 2567 มูลค่าการค้าชายแดน 38.88 ล้านบาท) มูลค่าการส่งออก รวมทั้งสิ้น 185.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (MOM) 35.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23.57 (เดือนมีนาคม 2568 มูลค่าการส่งออก 150.26 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YOY) มูลค่าการส่งออก เพิ่มขึ้น 149.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 409.94 (เดือนเมษายน 2567 มูลค่าการส่งออก 36.41 ล้านบาท) สินค้าส่งออกที่สำคัญ 5 อันดับ ได้แก่ รถยนต์รถบรรทุกปรับสภาพเพื่อส่งออก เครื่องอุปโภค-บริโภค น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รถยนต์เก่าใช้แล้ว และรถแทร็กเตอร์
มูลค่าการนำเข้า รวมทั้งสิ้น 6.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (MOM) 4.28 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 158.52 (เดือนมีนาคม 2568 มูลค่าการนำเข้า 2.70 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YOY) มูลค่าการนำเข้าลดลง 4.51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 182.59 (เดือนเมษายน 2567 มูลค่าการนำเข้า 2.47 ล้านบาท) สินค้านำเข้าที่สำคัญ คือ แร่พลวง และสินค้าอุปโภค-บริโภค
ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 178.69 ล้านบาท เทียบกับเดือนก่อนดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้น (MOM) 31.13 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.10 (เดือนมีนาคม 2568 ดุลการค้าเกินดุล 147.56 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YOY) ดุลการค้าเกินดลุ 144.75 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 426.49 (เดือนเมษายน 2567 ดุลการค้าเกินดุล 33.94 ล้านบาท)
สำหรับช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นช่องทางการค้าระหว่างชาวคาเรนนีกับชาวไทย พบว่ามีการส่งออกสินค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นขณะที่มีทหารเมียนมาประจำการอยู่ตามแนวชายแดนยอดการนำเข้าและส่งออกจะต่ำกว่าปัจจุบัน ในส่วนของช่องทางบ้านห้วยผึ้ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ยอดส่งออกสินค้าก็เพิ่มมาขึ้นเช่นกัน สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ปรับสภาพส่งออกไปเมียนมา จากเดิมผู้ประกอบการส่งออกไปเมียนมาโดยผ่านช่องทางด่านการค้าถาวร อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ภายหลังมีการปิดด่านทำให้ผู้ประกอบการย้ายเส้นทางส่งสินค้ามาผ่านในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน แทน แต่อย่างไรก็ตามสินค้าจำพวกรถปรับสภาพส่งออก เป็นสินค้าผ่านแดน ที่เป็นการค้าระหว่างนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นกับชาวเมียนมา ไม่ได้ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในพื้นที่แต่อย่างใด
นายทศพล บุญพัฒน์ รายงาน