“พังแสนดาว” ช้างตระกูลแสนลำดับที่ 23 เดินทางถึงบ้านใหม่ จ.เชียงใหม่ หลังได้รับการไถ่ชีวิตจากพระครูอ๊อด
พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน หรือพระครูอ๊อดวัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงภารกิจไถ่ชีวิตช้างเชือกล่าสุด “พังแสนดาว” ช้างเชือกลำดับที่ 23 ในบ้านช้างตระกูลแสน ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากปางช้างในจังหวัดภูเก็ต และได้เดินทางถึง “บ้านช้างตระกูลแสน” อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 22.03 น.
พังแสนดาวเป็นช้างเพศเมีย อายุ 53 ปี เคยผ่านการทำงานลากไม้ในจังหวัดแพร่ ก่อนถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่เป็นช้างรับนักท่องเที่ยวที่เกาะสิเหร่ อำเภอเมืองภูเก็ต พระครูอ๊อดเปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องราวชีวิตของพังแสนดาวที่ต้องใช้แรงงานมาอย่างหนัก ท่ามกลางสภาพร่างกายที่เสื่อมโทรมตามวัย จึงตัดสินใจดำเนินการไถ่ชีวิต และเคลื่อนย้ายด้วยรถบรรทุกสิบล้อ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ช้างได้กลับมามีชีวิตอิสระภายใต้การดูแลอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ได้มีการจัดพิธีรับขวัญอย่างเป็นทางการ โดยพระครูอ๊อดได้ประกอบพิธีพรมน้ำพระพุทธมนต์ และคล้องพวงมาลัยดอกไม้เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมจัดโต๊ะเลี้ยงผลไม้และอาหารสำหรับช้างเชือกนี้ โดยถือเป็นช้างลำดับที่ 23 ที่ได้รับการรับรองเข้าเป็นสมาชิกของ “ช้างตระกูลแสน” ซึ่งเป็นกลุ่มช้างที่ได้รับการดูแลใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติภายใต้พื้นที่
สำหรับเส้นทางชีวิตของพังแสนดาว เริ่มต้นที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนย้ายไปทำงานลากไม้ในอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ และจบลงที่เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งตลอดช่วงชีวิตได้ทิ้งร่องรอยของการทำงานไว้บนร่างกาย ทั้งบริเวณหน้าผากและลำตัว
พระครูอ๊อดกล่าวถึงที่มาของชื่อ “แสนดาว” ว่า ได้รับแรงบันดาลใจจาก “แสนเดือน” ช้างอีกเชือกที่เคยได้รับการช่วยเหลือ โดยตั้งใจให้ทั้งสองเป็น “ดาว” และ “เดือน” เคียงคู่กัน
ด้านนายชยพล พันธรักไพรวีลย์ หัวหน้าควาญช้างประจำบ้านช้างตระกูลแสน เปิดเผยว่า พังแสนดาวแม้ผ่านงานหนักมาในอดีต แต่ยังคงมีสุขภาพโดยรวมที่แข็งแรง โดยใช้คำในภาษาควาญช้างว่า “ไม่มีลูกระนาด” หมายถึงไม่มีลักษณะของความผอมโซ ช้างมีสภาพร่างกายอ้วนสมบูรณ์ ซึ่งจะได้รับการฟื้นฟูเพิ่มเติมควบคู่ไปกับการฝึกเดิน ฝึกการสื่อสาร และสร้างความคุ้นเคยกับควาญ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติในพื้นที่ป่า และกลับมามีกำลังกายเหมือนในอดีต
บรรยากาศภายในบ้านช้างตระกูลแสนในวันรับขวัญเต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยหลังจากนี้พังแสนดาวจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับช้างอีกเชือกที่ได้รับการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ พร้อมเริ่มต้นชีวิตใหม่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อความสุขของช้างอย่างแท้จริง.