สมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือ ร่วมกับสนามกอล์ฟชั้นนำ 9 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน เปิดตัวโครงการ “Chiang Mai Golf Festival 2025” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟในช่วงกรีนซีซั่น โดยมุ่งหวังสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในภาคเหนือ สนามกอล์ฟที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ North Hill Golf Club Chiang Mai Mae Jo Golf Resort & Spa Gassan Khuntan Golf & Resort Chiang Mai Highlands Golf & Spa Resort Gassan Panorama Golf Club Gassan Legacy Golf Club Lanna Golf Superclub Chiang Mai Inthanon Golf and Natural Resort Golden Dragon Mountains Golf and Resort
การแข่งขันจะจัดขึ้นทั้งหมด 9 แมตช์ ใน 6 สนาม ระหว่างเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม 2568 โดยมีเป้าหมายดึงดูดนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างชาติไม่น้อยกว่า 30,000 คน และคาดว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 4 เดือนของโครงการ
โครงการได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, สายการบิน EVA Air, บริษัท Dasom Sportainment Co.,Ltd. และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ความพิเศษปีนี้ คือ การแข่งขัน “Champ of The Champ – The Final Match” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6 กันยายน 2568 ณ สนามกัชชัน เลกาซี่ กอล์ฟ คลับ โดยนำผู้ชนะจากทั้ง 9 แมตช์ที่ผ่านมา มาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศจากผู้ว่าการ ททท.
ในงานแถลงข่าววันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ณ สนามกัชชัน เลกาซี่ กอล์ฟ คลับ มีผู้บริหารและผู้แทนองค์กรต่างๆ ร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ททท. สำนักงานเชียงใหม่, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, EVA Air, บริษัท Dasom Sportainment และสมาคมกอล์ฟอาชีพภาคเหนือ
คุณเฉลิมพล ชูชาติ นายกสมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือ กล่าวว่า Chiang Mai Golf Festival จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 แล้ว จุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ และผลักดันเศรษฐกิจในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว โดยหวังว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เล่น และสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีโครงการพิเศษ “Amazing Northern Green Golf” ภายใต้โครงการ “Amazing Northern Link” เพื่อดึงดูดนักกอล์ฟชาวต่างชาติ และกลุ่ม Expat ในไทย ให้เดินทางมาท่องเที่ยวภาคเหนือมากขึ้น โดยมอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อ ระหว่างวันที่ 3 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 ได้แก่:
สิทธิ์ที่ 1: คูปองส่วนลดเงินสด 200 บาท/ท่าน
สิทธิ์ที่ 2: คูปองแลกรับอาหาร (อาหารจานหลัก + ผลไม้รวม + น้ำดื่ม)
จำกัด 200 สิทธิ์ต่อสนาม (สัปดาห์ละ 25 สิทธิ์ ตลอด 8 สัปดาห์) โครงการนี้ไม่เพียงกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคเหนือ แต่ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกของการท่องเที่ยวเชิงกีฬา