6 สิงหาคม 2568 ที่ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัดได้เดินทางมาทำบุญไหว้พระเพื่อขอพรขอโชคขอลาภและขอสุขภาพแข็งแรง ขอให้เรื่องหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้าให้กับตนเอง ขอให้ได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต
เช่นเดียวกับคนที่ศรัทธา “ท้าวเวสสุวรรณ” ได้พากันทยอยเดินทางมากราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณความสูงขนาด 3 เมตร เนื้อทองเหลือง สีมันปู ที่ตั้งอยู่ภายในวัดพระแท่นศิลาอาสน์พระอารามหลวงกันอย่างต่อเนื่อง
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นเสียงร่ำลือ ปากต่อปากว่า ชาวบ้านสายมู นักท่องเที่ยว จากต่างจังหวัดและภายในจังหวัด เมื่อมาถึงที่วัดพระแท่นศิลาอาสน์พระอารามหลวงแห่งนี้ ที่พลาดไม่ได้คือการเข้ากราบสักการะขอพรกับ ศาลหลักเมืองจำลองของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ขอโชคขอลาภและเรื่องหน้าที่การงานมักจะสำเร็จกันถ้วนหน้า ซึ่งศาลหลักเมืองจำลองแห่งนี้มีขนาดความสูง 2.50 เมตร ที่อยู่ด้านข้างก่อนเข้าพระวิหารพระแท่นศิลาอาสน์โดยซึ่งจะพบว่ามีบรรดานักท่องเที่ยวสายมูและชาวบ้าน จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมากราบสักการะขอพรกันอยู่แก้บนกันอยู่เป็นประจำ โดยการนำ หัวหมูบ้าง ไก่ต้ม ผลไม้ น้ำเขียวน้ำแดง ตุ๊กตาปั้นไก่ชน หรือตุ๊กมวย และอื่นแล้วแต่ใครจะบนอะไรไว้ ก็จำนำสิ่งที่บนไว้มาแก้บน โดยส่วนมากที่จะมาแก้บนจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน เรื่องโชคลาภ
ซึ่งในวันนี้ก็ได้พบว่ามีนักท่องเที่ยวสายบุญสายมูจะเดินทางมาจากต่างจังหวัดจำนวนมากผสมผสานกับชาวบ้านในพื้นที่ ได้ทยอยสลับสับเปลี่ยน นำดอกไม้ธูปเทียนมาจุดกราบสักการะต่อหน้าศาลหลักเมืองถวายเครื่องสักการต่างๆพร้อมด้วยการผูกผ้า 3 สี ผ้า 7 สี นำไปผูกไว้กับต้นเสาหลักเมืองจำลอง โดยจะพบว่า ภายในเสาหลักเมืองจะมีผ้า 3 สี 7 สี ที่นักท่องเที่ยวสายบุญสายมูและชาวบ้านที่ประสบผลสำเร็จในเรื่องต่างๆจะนำผ้า 3 สี 7 สี มาผูกไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งภายหลังจากมีการกราบสักการะศาลหลักเมืองจำลองเสร็จก็ได้มีการจุดธูปเสี่ยงโชค ด้านหน้าทางเข้าศาลหลักเมือง เพื่อจะได้นำตัวเลขจากธูปเสี่ยงโชค ไปลุ้นโชคในงวดที่จะมาถึง ภายหลังจากเลขธูปไหม้หมด ปรากฏเป็น 263 โดยสายมูก็ได้มีการนำโทรศัพท์มาถ่ายรูปไว้ และจะนำไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะมาถึงต่อไป
ทางด้านนางสาว ปราณี จันทร์สุข หรือคุณหน่อย ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวสายมูทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัดจำนวนมาก จะสลับสับเปลี่ยนกันมากราบพระภายในพระวิหารของวัดพระแท่นศิลาอาสนน์ฯกันอยู่ไม่ขาดสาย ยิ่งโดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุด วันสำคัญทางพุทธศาสนา จะมากันมาก แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คือ สายมูเมื่อมาถึงวัดแห่งนี้จะต้องนำดอกกุหลาบแดงน้ำแดงเข้ากราบสักการะขอพรต่อองค์ท้าวเวสสุวรรณขนาดความสูง 3 เมตร เนื้อทองเหลือง สีน้ำมันปู ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ให้โชคแต่ชาวบ้านมาแล้วนับไม่ถ้วน
แต่ที่สำคัญที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านและสายมูนักท่องเที่ยวจะพูดถึงกันมากจนมีเสียงร่ำลือไปทั่วสารทิศ นั้นก็คือ ศาลหลักเมืองจำลองที่มีความสูงขนาด 2.50 เมตร โดยคุณหน่อยบอกว่า ชาวบ้านเมื่อได้มากราบสักการอธิฐานขอพรเมื่อขออะไรไว้ ภายใน 1 อาทิตย์หรือ 2 อาทิตย์ ก็จะเห็นกลับมาแก้บนกันเป็นประจำ บางคนก็นำหัวหมู ไก่ต้ม ไข่ต้ม ผลไม้ต่าง น้ำเขียวน้ำแดง ตุ๊กตานักมวย ไก่ชน สารพัดที่จะพากันมาแก้บน พร้อมกับมีการผูกผ้าสี 3 สี 7 สี กับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจำลอง จำนวนมาก ซึ่งตอนนี้จะสังเกตุว่า ภายในเสาหลักเมืองจำลองจะเต็มไปด้วยผ้าสีผูกเสาจากต้นเสาจนถึงปลายเสา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ถึงข้อมูลเกี่ยวกับศาลหลักเมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ของจริง อยู่ที่ใด นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ กล่าวว่า
สำหรับศาลหลักเมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ ทางจังหวัดได้มีหนังสือไปสอบถามกรมศิลปากรแล้วพบว่า ยังไม่เคยมีข้อมูลปรากฏการสร้างมาก่อน แต่ที่มีศาลหลักเมืองหรือเสาหลักเมืองจำลองที่อยู่ภายในวัดพระแท่นศิลาอาสน์นั้น เป็นการสร้างจำลองสร้างขึ้นตามความเชื่อของทางวัด เพื่อให้ประชาชนได้สักการะขอพรในเรื่องต่างๆ เพื่อความเป็นศิริมงคล ทั้งนี้ถึงแม้จะเป็นเพียงเสาหลักเมืองจำลองยังมีความศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ หากมีศาลหลักเมืองและเสาหลักเมืองที่จะสร้างให้ถูกระเบียบราชการและโบราณราชประเพณี คาดว่าจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนอุตรดิตถ์ และเกิดสิ่งดีงามมีความศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนและผู้มาเยือนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข
โดยนายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสร้างศาลหลักเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ขณะนี้ได้มีการดำเนินการออกแบบเรียบร้อยแล้วโดยกรมศิลปากรและคำแนะนำของพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานคณะพราหมณ์ของประเทศไทย ซึ่งจะจัดสร้างตามแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 4 ดังเช่นศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร โดยกำหนดจะมีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลหลักเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ในวันที่ศุกร์ที่ 8 สิงหาคม ที่จะถึงนี้
นาคา คะเลิศรัมย์ รายงาน