12 มิถุนายน 68 นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันการประสานข้อมูลสถานการณ์น้ำระหว่างหน่วยงานส่วนกลางและหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
สำหรับสถานการณ์น้ำวานนี้ (11 มิ.ย.68) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 43,201 ล้านลบ.ม. (56% ของความจุอ่างๆ รวมกัน) สามารถรองรับน้ำได้อีก 33,289 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,126 ล้าน ลบ.ม. (53% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรองรับน้ำได้อีก 11,745ล้าน ลบ.ม.
นายเอกภาพ กล่าวว่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้กำชับให้ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องในช่วงหน้าฝน ล่าสุด ขอให้เกษตรกรเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุโซนร้อน “หวู่ติบ”โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ที่ไทยจะได้รับผลกระทบ ช่วง 13-14 มิ.ย. โดยแบ่งตามภาคดังนี้
ภาคเหนือ ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรและระวังโรคที่มาพร้อมกับน้ำท่วม เช่น โรคเครียด โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และโรคอุจจาระร่วง เป็นต้น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรดูแลหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้มีรอยรั่วซึม และทำแผงกำบังลมและฝนให้แก่สัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานานเพราะอาจทำให้เป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้
ภาคกลาง ช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคตะวันออก ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ
ภาคใต้ ฝั่งตะวันตก พื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ นอกจากนี้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
สมนึก บุญศรี รายงาน