ข่าว ร้อยเอ็ด ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น เกษตรกร

โฆษกกระทรวงเกษตรเผย  เร่งแก้ปัญหาด้วงดำระบาด หลังแปลงนาข้าวพื้นที่ 6 จังหวัด ทุ่งกุลาร้องไห้อีสานเสียหายหนัก

12 มิถุนายน 68  นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งกรมการข้าว เร่งแก้ปัญหาด้วงดำระบาดแปลงข้าว โดยเฉพาะบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร และอุบลราชธานี โดยด้วงดำเป็นแมลงจำพวกด้วงปีกแข็งชนิดหนึ่งซึ่งเป็นศัตรูที่สำคัญของการปลูกข้าวโดยวิธีหว่านข้าวแห้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร และอุบลราชธานี

ด้วงดำขนาดตัวใหญ่ Heteronychus lioderes Redtenbacher และขนาดตัวเล็ก Alissonotum cribratellum Fairmaire ชอบบินมาเล่นแสงไฟตามบ้านเกษตรกรช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง มิถุนายน และ พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม ชนิดที่พบทำลายข้าวในนาส่วนมากเป็นด้วงดำขนาดตัวใหญ่ เกษตรกรในพื้นที่ระบาดรู้จักในชื่อ ด้วงซัดดัม หรือด้วงซัดดำ มักพบทำลายข้าวที่หว่านเร็วกว่าปกติระหว่างเดือน พฤษภาคม ถึง มิถุนายน และมีฝนทิ้งช่วง 15 – 45 วันหลังข้าวงอก

ลักษณะการทำลายจะเป็นแนวตามยาวเนื่องจากตัวเต็มวัยจะเคลื่อนย้ายไปกัดกินต้นใหม่โดยการมุดลงดินทำให้เห็นรอยขุดเป็นแนว ตัวเต็มวัยจะขุดหลุมอยู่ในดิน และกัดกินต้นข้าวเหนือผิวดินและเมื่อขุดตามรอยขุยดินพบตัวเต็มวัยของด้วง H. lioderes ต้นข้าว 1 ต้น โดยมากจะพบตัวด้วงเพียง 1 ตัว และพบ 2-3 ตัวต่อต้น แต่พบน้อยมาก ถ้าเป็นต้นข้าวต้นใหญ่อายุมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป ใบข้าวจะเหลืองคล้ายการทำลายของหนอนกอข้าว ลักษณะการทำลายตัวเต็มวัยจะกัดกินส่วนของต้นอ่อนสีขาวที่อยู่ใต้ดินเหนือรากข้าว (mesocotyl) โดยกัดกินส่วนเจริญภายในลำต้นแต่ต้นข้าวจะไม่ขาด ตำแหน่งที่พบด้วงดำอยู่ระดับเดียวกับรากข้าว ลึกจากผิวดินประมาณ 5 เซนติเมตรลักษณะการแพร่กระจายไม่แน่นอน

โดยกรมการข้าว ย้ำวิธีป้องกันและกำจัดด้วงดำ ดังนี้ ปลูกข้าวโดยวิธีปักดำ และหากต้องการปลูกโดยวิธีหว่านข้าวแห้ง ควรหว่านข้าวตามฤดูกาล

สมนึก บุญศรี  รายงาน