เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยามตะโกนพูดคุยกับคนงานชายคนหนึ่ง ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังที่ทับร่างคนงานอยู่ข้างล่างจนมองไม่เห็นชายคนดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่พยามสอบถามพูดคุยกับชายคนดังกล่าวถึงตำแหน่งที่ถูกกดทับเพื่อวางแผนใช้อุปกรณ์ในการช่วยเหลือ หลังจากที่บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้หลังหนึ่งใน ซอยเทพารักษ์ 70 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ในระหว่างที่กำลังทำการรื้อถอนบ้านหลังดังกล่าวท่ามสายฝน แล้วอยู่ๆเกิดพักถล่มลงมาทำให้คนงานที่กำลังรื้อถอนรวมทั้งหมด 4 คนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหนึ่งในนั้นถูกทับคาซาก เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 27 พ.ค. 68 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งระดมกำลังและอุปกรณ์ไปช่วยเหลือชายคนที่ติดคาซากบ้านหลังดังกล่าวออกมาอย่างเร่งด่วน
นายคมสัน บุญมีรักษ์ อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวเคยปล่อยให้เช่า และกำลังจะถูกรื้อถอนเพื่อสร้างใหม่ ตนได้ยินเสียงบ้านถล่มเมื่อเวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ ขณะที่คนงานกำลังรื้อถอน จึงรีบออกมาดูและเห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา ตนได้เข้าช่วยเหลือคนงานออกมาได้ 1 คน และทราบว่ายังมีคนงานติดค้างอยู่ใต้ซากอาคารอีก 1 คน. วันนี้เป็นวันที่สองของการรื้อถอน และคนงานเพิ่งเริ่มทำงานได้เพียงครึ่งชั่วโมง โครงสร้างบ้านก็ถล่มลงมา ตนเชื่อว่าอาจเป็นเรื่องอาถรรพ์ เนื่องจากลูกชายของเจ้าของบ้านเก่าเคยเสียชีวิตผิดธรรมชาติ (อุบัติเหตุตกตึกที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง) เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะดวงวิญญาณไม่ยอมให้ทุบบ้าน อย่างไรก็ตาม ตนสังเกตเห็นว่าบ้านมีลักษณะเอียงอยู่ก่อนแล้ว จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการพังถล่ม
คนงานอีกรายที่ทำงานอยู่คนละจุดกับที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า มีคนงานทั้งหมด 4 คน ช่วยออกมาได้แล้ว 3 คน และเหลืออีก 1 คนที่กำลังรอความช่วยเหลือ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์อีกรายระบุว่า วันนี้เป็นวันแรกของการรื้อถอนโครงสร้างบ้าน ส่วนเมื่อวานเพียงแค่มาเอาหน้าต่างออกเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.50 น. ของวันเดียวกัน วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการรื้อซากปรักหักพังของบ้านหลังดังกล่าวออก และช่วยเหลือคนงานชายชาวต่างด้าวออกมาได้สำเร็จ ก่อนจะช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ หมอนลม สอดเข้าไปใต้ซากปรักหักพังปล่อยลมดันซากบ้านขึ้น ก่อนใช้เลื่อยกู้ภัยตัดซากบ้านออกเป็นช่องก่อนน้ำตัวผู้บาดเจ็บที่ติดใต้ซากบ้านขึ้นมาได้
นายปิติรัตน์ ปัญญาสาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ได้ระดมเครื่องมือและอุปกรณ์กู้ภัยพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ จากการตรวจสอบพบว่าคนงานถูกคานไม้และซากบ้านกดทับที่ขา เจ้าหน้าที่จึงประเมินสถานการณ์และวางแผนช่วยเหลือ โชคดีที่ไม่ถูกกดทับบริเวณสำคัญของร่างกาย อุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือคือสภาพน้ำท่วมขังและฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือแข่งกับเวลาเพื่อความปลอดภัยของคนงาน
ด้านนายวชิรเชษฐ์ รุ่งธวัฒน์วงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพารักษ์ กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนงาน 4 คนเข้าดำเนินการรื้อถอน และจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการขออนุญาตรื้อถอนแต่อย่างใด สาเหตุคาดว่ามาจากการรื้อถอนที่ไม่ถูกหลักวิศวกรรม ส่วนผลกระทบต่อบ้านข้างเคียงจะต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองช่างเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง นายกเทศมนตรีฯ ชี้แจงว่า สาเหตุหลักน่าจะมาจากการผิดหลักวิศวกรรม ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับฝนตกดินทรุด แม้จะมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ก็ตาม หลังจากนี้จะต้องให้กองช่างและผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบระเบียบการขออนุญาตก่อสร้างต่อไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะเชิญบริษัทผู้รับเหมาและผู้ควบคุมงานมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุของการพังถล่มอีกครั้ง สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่ามาจากสภาพบ้านที่เก่าทรุดโทรมอยู่แล้ว ประกอบกับฝนตกหนักและน้ำท่วมขังในพื้นที่อาจทำให้ดินทรุดตัวจนดึงโครงสร้างพังถล่มลงมา อย่างไรก็ตาม จะต้องประสานผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป