พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในพิธีศพ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 16.00 น. พิธีเคลื่อนศพของ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา นายทหารประจำการ สังกัดกระทรวงกลาโหม ผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะปฏิบัติหน้าที่ ได้ดำเนินการจากวัดบูรพาราม จังหวัดร้อยเอ็ด มายังบ้านเกิด ณ บ้านเลขที่ 37 หมู่ 3 บ้านโนนสังข์ศรี ตำบลบ้านซ่ง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร โดยมี กองทหารเกียรติยศ ตั้งแถวเคลื่อนศพอย่างสมเกียรติ สร้างความโศกเศร้าอาลัยแก่ผู้ที่มารอรับจำนวนมาก
พิธีวางพวงมาลาพระราชทาน: แสดงความเคารพแก่ผู้เสียสละ
เมื่อศพเดินทางถึงบ้านพักผู้วายชนม์ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และผู้มีเกียรติจำนวนมาก ได้พร้อมกันเพื่อร่วมพิธี โดยมี พระพิธีธรรมจากวัดศรีมงคลใต้ พระอารามหลวง ขึ้นสู่อาสน์สงฆ์ และเจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญ พวงมาลาพระราชทาน เข้าสู่พิธี
นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาพระราชทานหน้าหีบศพ โดยมี นางอัญชลี กัลปมาพิจิตร นายกเหล่ากาชาด/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยกำลังพลทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และประชาชน ร่วมแสดงความเคารพและไว้อาลัยอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้น ประธานในพิธีได้จุดเครื่องนมัสการกระบะมุก เพื่อเริ่มพิธีสวดพระอภิธรรม โดยพระพิธีธรรมได้สวดพระอภิธรรม 4 จบ ผู้มีเกียรติร่วมกันถวายจตุปัจจัยไทยธรรม เจ้าหน้าที่เข้าลาดผ้าภูษาโยง ประธานทอดผ้าบังสุกุล และพระพิธีธรรมพิจารณาผ้าบังสุกุล อนุโมทนา ก่อนเสร็จพิธีด้วยการกรวดน้ำรับพร
ประวัติและกำหนดการพิธีศพ
จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2534 สิริอายุ 34 ปี บรรจุเป็นกองหนุนเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 3 ตำบลบ้านซ่ง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร และมีบุตรชาย 1 คน อายุ 1 ปี 1 เดือน
สำหรับการบำเพ็ญกุศลศพ จะมีการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ในวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 18.00 น. ทั้งนี้ วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 จะงดสวดพระอภิธรรม และ กำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ณ วัดเจริญธรรมาราม ตำบลบ้านซ่ง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในครั้งนี้นับเป็นขวัญกำลังใจอันยิ่งใหญ่แก่ครอบครัวของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา ผู้เสียสละชีวิตเพื่อชาติ และยังเป็นการยืนยันถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยและให้ความสำคัญต่อทหารกล้าและครอบครัวผู้เสียสละเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติอย่างหาที่สุดมิได้.