19 พฤษภาคม 2568 ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด ตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด นายมงคล ยี่รัมย์ เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดอบรมทีมพี่เลี้ยงในการใช้เทคโนโลยีขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2568 ด้วยสมาร์ทโฟน ซึ่งการจัดการอบรมในครั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับช่องทางการใช้เทคโนโลยีในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรในปี 2568 นี้เป็นต้นไป เพื่อให้เกษตรกลุ่มเป้าหมายได้แก่ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน จำนวน 70 คน ได้มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและสามารถใช้เทคโนโลยีด้วยตนเองได้ และสามารถนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกรรายอื่นๆในชุมชนของตนเองได้ ในการใช้เทคโนโลยีในการขึ้นทะเบียนประกอบไปด้วย
การขึ้นทะเบียนออนไลน์ผ่านช่องทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และระบบออฟไลน์ก็คือสามารถไปขึ้นทะเบียนได้โดยตรงที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ในระบบออนไลน์จะประกอบไปด้วย application farm book สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิมไม่เพิ่มพื้นที่เพาะปลูก สามารถขึ้นทะเบียนผ่านระบบด้วยตนเองหรือโดยมีพี่เลี้ยงให้คำแนะนำได้เลยทันที ช่องทางที่ 2 ผ่านระบบ e-form ที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้พัฒนาขึ้นมา เป็นการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรระบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ efarmer.doae.go.th สามารถขึ้นทะเบียนได้ทั้งเกษตรกรรายใหม่และเกษตรกรรายเดิมเป็นระบบที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ทันสมัยกว่าเดิม
ช่องทางที่ 3 สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถขึ้นทะเบียนโดยตรงที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอพร้อมเอกสารประกอบด้วยสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาเอกสารสิทธิ์ หรือสัญญาเช่าที่ดินให้นำไปด้วยเพื่อประกอบการขึ้นทะเบียน โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอคอย สอบถามและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดเพื่อความถูกต้อง
นายมงคล ยี่รัมย์ เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวอีกว่า สำหรับประโยชน์ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรประกอบไปด้วย จะทำให้เกษตรกรมีรายชื่อในฐานข้อมูลเกษตรกรประจำปี 2568 จะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานของเกษตรกรโดยเป็นข้อมูลของทางรัฐบาลที่จะนำไปใช้ว่าเกษตรกรมีการเพาะปลูกพืชอะไรบ้างเพื่อรัฐบาลจะนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาด้านการเกษตรพัฒนาทางด้านผลผลิตปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ท้องตลาดเพื่อที่จะเชื่อมโยงในด้านการตลาดในอนาคตได้ ในส่วนของประโยชน์อื่นๆที่เห็นได้ชัดเจนที่ผ่านมาคือเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆอาทิฝนแล้ง น้ำท่วม ภัยพิบัติต่างๆ หรือโรคพืช รัฐบาลก็จะมีระเบียบฯ ในการช่วยเหลือเกษตรกรก็จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ นอกจากนี้ในเรื่องอื่นๆที่ภาครัฐให้การดูแลช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้แก่การสนับสนุนค่าบริหารจัดการ การประกันราคาพืชผล การสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิต เช่นโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โครงการไร่ละ 1,000 บาท เป็นต้น เป็นนโยบายของรัฐบาลในแต่ละปีซึ่งนโยบายตรงนี้เกษตรกรจะต้องมีข้อมูลขึ้นทะเบียนเกษตรกรในฐานข้อมูลแต่ละปี ถ้าเกษตรกรไม่มีข้อมูลในฐานข้อมูลท่านก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล นับว่าเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญของเกษตรกรที่จำเป็นจะต้องขึ้นทะเบียนทุกปีนอกจากนี้รัฐบาลยังได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรในการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจที่สามารถขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรได้อาทิ เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้ง เลี้ยงจิ้งหรีด เลี้ยงชันโรง เลี้ยงครั่ง เป็นต้น ก็จะสามารถรับการสนับสนุนจากภาครัฐได้ สำหรับมาตรการการช่วยเหลือนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการขึ้นทะเบียนของพี่น้องเกษตรกร ส่วนวัตถุประสงค์หลักในการขึ้นทะเบียนก็คือ ปริมาณผลผลิต พื้นที่เพาะปลูก เพื่อไปวางแผนในการพัฒนาทางด้านการเกษตร โดยข้อมูลของเกษตรกรจะครอบคลุมการปลูกพืชทุกชนิด โดยไร่นาสวนผสมก็จะสามารถขึ้นทะเบียนได้โดยมีหลักเกณฑ์ปลีกย่อยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนการเพาะปลูกพืชได้หลังการปลูกพืช 15-60 วัน สามารถแจ้งขึ้นได้ทั้ง 3 ช่องทางตามที่กล่าวมาข้างต้น
จึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรขึ้นทะเบียนเกษตรกรในปี 2568 โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เริ่มทำนาปีวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากทำการเพาะปลูก 15-60 วันท่านสามารถใช้ทั้ง 3 ช่องทาง ด้วยการขึ้นทะเบียนฐานข้อมูลเกษตรกรในปี 2568 ผ่านทีมพี่เลี้ยง โดยช่องทางการใช้เทคโนโลยีในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรในปี 2568 ที่เป็นอาสาสมัครเกษตรกรหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ได้ ทั้งนี้เพื่อสิทธิประโยชน์ของเกษตรกรทุกคน ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆจากทางรัฐบาล ต่อไป
สมนึก บุญศรี รายงาน