จากเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 68 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ขณะนางพิมพ์นิภา ขับรถกลับบ้านบนถนนท่าจักรแยกป่าห้า อ.เมือง จ.ลำพูน ทันใดนั้น เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มโครมลงมากลางถนน ทับรถ Toyota Fortuner สีขาวของเธอเข้าอย่างจัง จนเกิดไฟช็อต โชคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และสามารถช่วยเธอออกมาได้ภายใน 10 นาที
“ตอนนั้นคิดถึงหน้าลูกกับสามี คิดว่าต้องไม่รอดแน่ๆ” เธอเล่าด้วยน้ำตาคลอ
เวลาผ่านไปเกือบเดือน…ความช่วยเหลือยังเงียบเธอเล่าว่า หลังเกิดเหตุได้แจ้งความกับ สภ.เหมืองจี้ และพยายามติดต่อการไฟฟ้า แต่ไร้การตอบรับ จนกระทั่งมีการเผยแพร่ข่าวออกไป การไฟฟ้าจึงติดต่อมาและนัดพูดคุย โดยมีการโต้เถียงเรื่องความรับผิดชอบ การไฟฟ้ากล่าวว่า “อาจเป็นภัยธรรมชาติ ไม่มีหลักเกณฑ์เยียวยา” และให้ทำเรื่องของบซ่อมรถไปก่อน ส่วนค่ารักษาพยาบาล ค่าขาดประโยชน์ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด
จนกระทั่งวันที่ 21 พ.ค. ผู้เสียหายพยายามโทรสอบถามอีกครั้ง และสิ่งที่ได้รับคือคำตอบจากผู้บริหารระดับจังหวัดว่า…“คุณไม่รู้หรือไงว่าเสาไฟฟ้ามันจะล้ม ทำไมไม่หลบ?”
ด้านผู้เสียหายไม่ต้องการอะไรนอกจาก “ความชัดเจน”เธอเพียงต้องการรู้ว่า การไฟฟ้าจะชดใช้ให้ในด้านใดบ้าง เพื่อดำเนินการรักษา และฟื้นฟูชีวิตครอบครัว โดยเฉพาะภรรยาทีีมีอาการ โรคแพนิคถาวร จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางผู้บริหารฯ แจ้งว่าเรื่องนี้เกินอำนาจของลำพูนแล้ว ต้องส่งให้เขตที่ จ.เชียงใหม่เป็นผู้พิจารณา พร้อมยืนยันว่าดำเนินเรื่องเร็วที่สุดแล้วตามขั้นตอน
แต่คำถามที่ยังไร้คำตอบก็คือ ใครต้องรับผิดชอบ และเมื่อไรผู้เสียหายจะได้ความยุติธรรม