24 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ท.หญิง นรีรัตน์ อภิธนาพิมพิมกุล สารวัตรสอบสวน สภ.ลับแล พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลลับแล อาสาสมัครมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์จุดลับแล ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต จึงได้รุดไปที่จุดเกิดเหตุ คือที่น้ำตกแม่พูล ม.4 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุอาสาสมัครมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์จุดลับแล ได้จัดชุดประดาน้ำออกค้นหาภายในน้ำ โดยใช้เวลาค้นหาไม่นาน ก็พบร่างเด็กชายอายุ 14 ปี นอนคว่ำหน้าจมอยู่ภายในน้ำ ทราบชื่อคือน้องด้า)นามสมมุติ) อายุ 14 ปี
จากนั้นหัวหน้าชุดอาสาสมัครมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์จุดลับแลพร้อมด้วยชุดประดาน้ำ จึงได้นำร่างขึ้นมาจากน้ำ ในลักษณะ ไม่ได้ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายดำขาว
สอบถาม ดช.นาย(นามสมมุติ)อายุ 14 ปีเล่าว่า เมื่อช่วงเวลา 11.00 น.ตนเองและเพื่อนรวม 12 คน ได้นัดพบกันในเขตอำเภอเมือง เพื่อไปเล่นน้ำที่น้ำตกแม่พูล และมาถึงที่น้ำตกแม่พูลในช่วงเที่ยง พอมาถึง ก็ได้ลงเล่นกันจนถึงช่วงประมาณ 13.30 น.ก็ได้พักทานข้าวกันและก็จะชวนกันกลับ แต่ไม่พบน้องด้า(ผู้เสียชีวิต) จึงได้ออกตามหา ตอนแรกนึกว่าไปนั่งรอที่รถ ซึ่งอยู่ด้านหน้าทางเข้าน้ำตกแม่พูลห่างจากที่จุดเล่นน้ำประมาณ 500 เมตร พอออกไปตามก็ไม่พบ และก็ได้ตามหาตามจุดต่างๆ ประมาณ 2 ชม.ก็ไม่พบเจอตัว ตนและเพื่อนจึงได้ไปบอกป้าที่ขายของชำอยู่ทางเข้าน้ำตกให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ด้วย ทางป้าผู้ขายของชำก็ได้โทรบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ก็ได้มาที่เกิดเหตุและได้ค้นหา พบร่างน้องด้า จมน้ำในลักษณะคว่ำหน้าดังกล่าว จึงได้นำร่างขึ้นมาพร้อมกับโทรแจ้งญาติให้น้องดาต้าทราบ
จากนั้นสมพงษ์ มากพันธ์ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นตาพร้อมกับยายและญาติๆเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อพบร่างน้องดาต้า ต่างร่ำไห้ ร้องไห้ออกมา อย่างด้วยความเสียใจจากการจากไปของน้องต้าในครั้งนี้
โดยเฉพาะ นายสมพงษ์ ซึ่งเป็นตา ถึงกับเข่าทรุดเมื่อเจอร่างไร้วิญญาณของหลาน ร้องไห้ฟูมฟาย จนแทบขาดใจ โดยบอกว่า ตนเองพึ่งเสียลูกชายไปเมื่อ 3 ปี ที่แล้วด้วยโรคเกี่ยวกับกระเพาะ มาปีนี้ยังจะมาเสียหลานชายอันเป็นที่รักไปอีก ในขณะที่ญาติๆต่างพยุงนายสมพงษ์(ตา)ให้นั่งลงพัก และทางญาตในนำเสื้อผ้ามาให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนชุดให้น้องดาด้า ได้ใส่ใหม่ จากนั้นตาสมพงษ์ได้จุดธูป 1 ดอก บอกกล่าวดวงวิญญาณของน้องด้า ให้กลับบ้าน โดยรถของมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ เพื่อบำเพ็ญกุศลศพต่อไป
นาคา คะเลิศรัมย์ รายงาน