4 มิถุนายน 2568 นายจิรพันธ์ สมจิตร นายก อบต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดเหตุถนนคอนกรีตข้ามลำคลองร่องน้ำห้วยแสง พื้นที่บ้านโนนอีปัง ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดพังถลมลงมา หลังมีฝนตกหนักและน้ำหลากในพื้นที่ ส่งผลทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างบ้านโนน ต.โพนข่า ไปยังบ้านโนนอีปัง ต.หนองแก้ว ซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ตำบล เส้นทางลัดเข้าตัวเมืองศรีสะเกษ
ทั้งนี้ขอชี้แจงว่า จุดที่พังถล่มดังกล่าว เดิมไม่ใช่สะพาน ก่อนหน้านี้จุดดังกล่าวเป็นถนนเส้นทางยาว และมีท่อน้ำลอดใต้ถนน ซึ่งเป็นร่องน้ำขนาดเล็ก ของกรมชลประทาน ต่อมาได้มีการขุดลอกขยายร่องน้ำกว้างขึ้น แต่ไม่ได้มีการออกแบบขยายท่อน้ำ จึงเกิดเป็นคอขวดและมวลน้ำเคยกัดเซาะจนเส้นทางดังกล่าวพังทลายมาแล้ว จากนั้นทาง อบต.หนองแก้ว จึงได้ตั้งงบประมาณ จำนวน 420,000 บาท ในการออกแบบขยายท่อน้ำให้ใหญ่ขึ้น แทนท่อเดิมที่มีขยาดเล็กมาก แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลลงมาจากที่เนินสูง จึงเกิดการเซาะใต้ดินและเกิดทรุดตัวพังทลายลงมาดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแบบก่อสร้างว่ามีการใส่เหล็กหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่ามีเหล็กและมีการควบคุมงานแต่ละขั้นตอนอย่างเข้มงวด รวมถึงภาพถ่ายขณะก่อสร้างรายงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่ชาวบ้านถ่ายภาพแล้วไม่สังเกตเห็นมีส่วนผสมของเหล็ก จริงๆแล้วมี แต่อาจจะเกิดจากเส้นเหล็กขาดออกจากกัน แต่การก่อสร้างได้ทำตามแบบที่ช่างได้ออกแบบไว้ทุกขั้นตอน ซึ่งตนก็ได้ไปตรวจสอบดูหน้างานอย่างต่อเนื่อง และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
อย่างไรก็ตามขณะนี้จุดที่เกิดเหตุดังกล่าว อยู่ระหว่างรับประกันสัญญาของผู้รับจ้าง ซึ่งขณะนี้ ทาง อบต.หนองแก้ว ได้ออกหนังสือให้ผู้รับจ้าง เข้ามาตรวจสอบและแก้ไขงานแล้ว แต่เบื้องต้น จะได้ประชุมหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยให้กองช่าง อบต.หนองแก้ว เร่งออกแบบเส้นทางเบี่ยง ในพื้นที่เดียวกัน เป็นวงแหวนรอบจุดที่สะพานพังทลาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้สัญจรผ่านไปมาได้ในเบื้องต้น โดยเร็วที่สุด และคาดว่าจะสามารถสร้างทางเบี่ยงได้ ภายในไม่เกิน 15 วันนี้ เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้น
จึงฝากขออภัยในความไม่สะดวกในการสัญจรในเส้นทางดังกล่าว ซึ่ง อบต.หนองแก้ว จะรีบเร่งดำเนินการ เพื่อให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้สัญจรไปมาได้สะดวกโดยเร็วที่สุด และจะพยายามปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน