15 กรกฎาคม 2568 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี KA เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า กองกำลังผสมทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี ประกอบด้วย KNDF, KNPLF, KA และ PDF ( ทีมโดรน ) ยังคงปิดล้อมค่ายของทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 135 ในเมืองผาซอง และมีการส่งโดรนไปทิ้งระเบิดใส่ทหารเมียนมาในค่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กองทัพอากาศเมียนมา ได้มีการปฏิบัติการทางอากาศด้วยการโจมตีด้วยระเบิดขนาด 200 , 500 ปอนด์ ต่อทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี ทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
สำหรับการสู้รบระหว่างกองกำลังผสมกะหรึ่ยงคาเรนนี กับทหารเมียนมา สังกัดกองพันทหารราบที่ 134 และ 135 ตั้งแต่ 25 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา กองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนีสามารถยึดค่ายทหารเมียนมา ของกองพันทหารราบที่ 134 ได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ทางฝ่ายกองกำลังผสมก็ต้องสูญเสียนักรบไปเป็นจำนวนมาก จากการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินขับไล่ของทหารเมียนมา และ จากกระสุนปืนของทหารเมียนมาที่ตอบโต้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนั้นการสูญเสียทหารส่วนหนึ่งมาจากการคืบคลานรุกไปข้างหน้าเพื่อยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา และเจอกับกับระเบิดนานาชนิดที่ทหารเมียนมาวางป้องกันไว้รอบ ๆ ฐานที่มั่นอย่างแน่นหนา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนี สามารถยึดค่ายของทหารเมียนมาที่อยู่ตามแนวชายแดนด้านที่ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ทั้งหมด 9 ค่าย และยังคงหลงเหลืออีก 3 ค่าย ได้แก่ ค่ายทหารเมียนมาในเมืองผาซอง , ค่ายทหารเมียนมาในเมืองบอลาแคะ และ ค่ายทหารเมียนมาในเมืองลอยก่อว์ ซึ่งจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอากาศเมียนมา เป็นอุปสรรคต่อการรวมกำลังทหารและการเคลื่อนที่เพื่อเข้ายึดค่ายทหารเมียนมาที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะค่ายทหารเมียนมาที่อยู่ในเขตชุมชน เมื่อมีการสู้รบกันได้มีการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศเมียนมา ทำให้ราษฎรในพื้นที่ต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งในการสู้รบในเมืองผาซอง มีราษฎรและทหารได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 200 คน ส่วนที่อาการสาหัสได้ถูกส่งมารักษาตัวในไทยกว่า 100 คน และเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเช่นกันแต่ทางแหล่งข่าวไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะ
ภานุเดช ไชยสกูล รายงาน