“K9 และช้างกู้ภัย” โมเดลต้นแบบการกู้ภัยเพื่อชีวิตทุกรูปแบบในสถานการณ์ภัยพิบัติ
ภารกิจค้นหาและช่วยเหลือสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติในปัจจุบัน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการดูแลผู้ประสบภัยที่เป็นมนุษย์เท่านั้น แต่ยังขยายครอบคลุมไปถึงสัตว์เลี้ยงและสัตว์ทุกประเภทที่มีชีวิต ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหลาก น้ำป่า หรือแผ่นดินไหว โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่พลัดหลงหรือได้รับบาดเจ็บในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ภารกิจเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ พระสงฆ์ผู้มีวิสัยทัศน์และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันแนวคิด “ช้างกู้ภัย” หรือ “หน่วยกู้ภัยตัวโต” โดยริเริ่มจัดตั้งทีมอาสาสมัครกู้ภัยที่ผสานกำลังจากมนุษย์ทีมกู้ภัย ช้างกู้ภัย และสัตวแพทย์เพื่อสร้างระบบการช่วยเหลือที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในสถานการณ์วิกฤต
ส่วน สุนัข K9 ที่ผ่านการฝึกฝนเฉพาะทางจะทำหน้าที่เป็นหน่วยค้นหาด่านแรก ด้วยความสามารถด้านประสาทการดมกลิ่นที่ไวและแม่นยำ พวกเขาสามารถระบุตำแหน่งของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นผู้คนหรือสัตว์ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง พื้นที่รกทึบ หรือถูกน้ำพัดไปยังจุดที่เข้าถึงได้ยาก
เมื่อสามารถระบุพิกัดได้แล้ว ทีมสนับสนุนอย่างหน่วยช้างกู้ภัยจึงจะเข้ามาดำเนินการลำเลียงสัตว์หรือผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในจุดที่ยานพาหนะทั่วไปเข้าไม่ถึง ช้างที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีจะทำหน้าที่ลำเลียงผ่านกระแสน้ำ หรือภูมิประเทศที่ยากลำบากอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การควบคุมและดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมสัตวแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์ที่ได้รับการช่วยเหลือจะเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างปลอดภัย
พระครูอ๊อดได้ให้แนวคิดสำคัญว่า “ภัยพิบัติไม่ได้ทำร้ายแค่คน แต่ยังรวมถึงสัตว์เลี้ยง สัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ไม่มีโอกาสหลบหนีหรือส่งเสียงขอความช่วยเหลือ” แนวคิดนี้สะท้อนความเมตตาและการมองเห็นชีวิตทุกชีวิตอย่างเท่าเทียม โดยภารกิจช่วยเหลือที่จัดขึ้นไม่ใช่เพียงการฝึกอบรม แต่เป็นการจำลองสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริง เพื่อแสดงศักยภาพในการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน
ผลลัพธ์จากการปฏิบัติการในภาคสนามแสดงให้เห็นว่า การประสานงานระหว่างสุนัข K9 ทีมช้างกู้ภัย ทีมกู้ภัยอาสาสมัคร และทีมสัตวแพทย์ สามารถดำเนินการได้อย่างลงตัว ช่วยลดความสูญเสีย เพิ่มโอกาสรอดชีวิต และสร้างความมั่นใจว่า หากเกิดภัยพิบัติขึ้นจริง ระบบนี้สามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั้งมนุษย์และสัตว์
ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของการสร้าง “โมเดลต้นแบบด้านการกู้ภัยเชิงบูรณาการ” ที่ให้ความสำคัญกับชีวิตทุกรูปแบบ โดยมีพระครูอ๊อดเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และเป็นแรงผลักดันให้เกิดการลงมือทำจริงเพื่อโลกที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและการไม่ทอดทิ้งชีวิตใดไว้ข้างหลัง.