จากสถานการณ์ยาเสพติด โดยเฉพาะพืชกระท่อมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงเป็นเงาตามหลอน แม้พืชชนิดนี้จะถูกปลดออกจากบัญชียาเสพติดไปแล้ว แต่การใช้ในทางที่ผิด กลับแพร่ระบาดอย่างน่าเป็นห่วง และมีอัตราสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ กลายเป็นต้นตอของอาการมึนเมา และนำไปสู่การติดยาเสพติดชนิดอื่นๆ
22 กรกฎาคม 2568 พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบหมายให้ นายธีรวิทย์ เธียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการ กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านจำปูน ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา พบปะและให้กำลังใจแก่ นายวันอัซวันย์ วาโต๊ะมะ ผู้ใหญ่บ้าน และทีมงาน ที่ได้นำผู้นำศาสนา พี่น้องประชาชน เยาวชน ในพื้นที่รับผิดชอบ รวมพลังออกมาต่อต้านพืชกระท่อม-ยาเสพติด พร้อมทั้งขอร่วมแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.ยะลา ตามนโยบาย “ปฏิบัติการ 120 วัน“ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แบบบูรณาการในทุกมิติ” ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 เพื่อลดปัญหาการค้า การใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด รวมถึงยาเสพติด และรวมพลังผู้นำศาสนาประชาชน เยาวชน ให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเพิ่มมากขึ้นต่อไป
นายธีรวิทย์ เธียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติด โดยเฉพาะพืชกระท่อมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังน่าเป็นห่วง ปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะพืชกระท่อมที่เป็นสาเหตุหนึ่งให้เกิดอาการมึนเมา กำลังเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยพบว่าปัญหานี้มีอัตราสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ และยังนำไปสู่การติดยาเสพติดชนิดอื่นๆอีกด้วย
จากปัญหาดังกล่าว ประชาชนในพื้นที่จึงได้รวมตัวกันเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จนนำไปสู่การกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นวาระเร่งด่วนของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งทาง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ได้ประกาศวาระ 120 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาพืชกระท่อม พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร รวมถึงภาคประชาสังคม และที่สำคัญที่สุดคือผู้นำชุมชนทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะผู้นำศาสนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร่วมกันคลี่คลายสถานการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง ในมุมมองของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่จำเป็นต้องรอเพียงแค่ข้อกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญคือการร่วมกันปกป้องครอบครัวและเยาวชนจากสิ่งมึนเมาทุกชนิด โดยเฉพาะพืชกระท่อม ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันแก้ไข
ขณะนี้หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะรัฐบาล กำลังผลักดันให้พืชกระท่อมกลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด ความร่วมมือของภาคประชาชนคือหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหา สิ่งที่ภาครัฐต้องการเห็นมากที่สุดคือการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ผู้นำศาสนา และกลุ่มเยาวชนที่อยู่นอกเหนือภาครัฐ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีแล้ว และผู้บริหารระดับสูงต่างชื่นชมและให้กำลังใจทุกภาคส่วนในการร่วมมือกัน ภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนและดูแลอย่างต่อเนื่อง
ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ของ จ.ยะลา โดยเฉพาะ พื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านจำปูน ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ถือเป็นพื้นที่ตัวอย่างที่ผู้นำและชุมชนมีความเข้มแข็ง ลุกขึ้นมาต่อต้านยาเสพติดและแก้ไขปัญหาพืชกระท่อมด้วยตนเอง แสดงให้เห็นถึงพลังของชุมชนในการปฏิเสธยาเสพติดทุกชนิด และหวังว่าจะมีชุมชนและมีผู้นำลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่องและขยายผลต่อไป
ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน
