24 กรกฎาคม 68 ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีฯ คณะสื่อมวลชนจากจังหวัดสุราษฎร์ฯ นครศรีฯ กระบี่ พัทลุง และ ตรัง ได้เข้าร่วมกิจกรรม “อธิการบดีฯ พบเครือข่ายสื่อมวลชน“ ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีฯ เปิดเผยว่า สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก Times Higher Education (THE) เผยแพร่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ที่มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) หรือ THE Impact Rankings 2025 โดยมีมหาวิทยาลัยจำนวน 2,526 แห่ง จาก 130 ประเทศทั่วโลกและสถาบันอุดมศึกษาไทย 83 แห่งเข้ารับการจัดอันดับผลปรากฏว่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ สามารถไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัย ‘TOP 100 ของโลก’ ได้สำเร็จ โดยอยู่ในอันดับที่ 93 ของโลก และอันดับ 5 ของประเทศ โดยเฉพาะในด้านบทบาทการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศอย่างยั่งยืน หรือ SDG 5 : Gender Equality สามารถทำคะแนนได้ 85 จาก 100 คะแนน ทะยานขึ้นแท่นครองอันดับ 1 ของโลก
ศ.ดร.สมบัติ กล่าวว่า “ม.วลัยลักษณ์ สามารถขึ้นมาอยู่ Top100 ของโลกได้สำเร็จถือเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของทุกคน ซึ่งในประเทศไทยมีเพียง 5 สถาบันที่ติด Top100 แสดงให้เห็นว่า มีผลงานที่โดดเด่นเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก ที่รับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เชื่อว่าในอนาคตจะมีอันดับด้านอื่นๆที่ดีกว่านี้ต่อไป” อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดอันดับ World University Rankings 2025 ให้ ม.วลัยลักษณ์อยู่ในอันดับที่ 1201+ ของโลก อันดับ 6 ของไทย และติดอันดับ 501+ ของโลกในกลุ่ม Young University Rankings พร้อมครองแชมป์มหาวิทยาลัยสีเขียวภาคใต้ 5 ปีซ้อน จากการจัดอันดับ ม.สีเขียวโลกสะท้อนถึงคุณภาพของมหาวิทยาลัยฯเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
โดยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษาเป็นอันดับแรก ภายใต้ปรัชญาการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพระดับสากล “เก่งวิชาการ เชี่ยวชาญปฏิบัติ” โดยหลักสูตรที่มีสภาวิชาชีพรองรับ เช่น แพทย์ พยาบาล เภสัชฯ นักศึกษาจะต้องสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพอย่างน้อย 90% ในการสอนครั้งแรก โดยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติสหกิจศึกษานานถึง 8 เดือน เพื่อให้นักศึกษามีทักษะความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพอย่างแท้จริง และสามารถทำงานได้ทันทีเมื่อสำเร็จการศึกษา ที่สำคัญยังได้มีการนำระบบ UKPSF จากประเทศอังกฤษมาใช้สำหรับการเรียนการสอน เน้นให้นักศึกษามีทักษะในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ มีทักษะทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนของโลก ปัจจุบันมีจำนวนอาจารย์ผู้สอนที่ได้รับประกาศนียบัตรการเป็นผู้สอนมืออาชีพ UKPSF จากสถาบัน Advance Higher Education มากเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย คือ 738 คน และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทยที่ประกาศว่า “การเรียนการสอนในทุกหลักสูตร สอนภายใต้กรอบ UKPSF” ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการสอนภาษาอังกฤษ โดยจัดให้มีการสอนห้องขนาดเล็ก 25 คนต่อห้อง พร้อมปรับเพิ่มชั่วโมงการสอนภาษาอังกฤษ พื้นฐาน จาก 270 เป็น 390 ชั่วโมงมากที่สุดในประเทศไทยตั้งแต่ปีการศึกษา 2568 เป็นต้นไป
ด้านคุณภาพชีวิตของนักศึกษาได้พัฒนาห้องเรียนอัจฉริยะ Smart Classroom มีห้องทดลองและห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย ปรับปรุงและสร้างสนามกีฬาให้มีมาตรฐานสากล มีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม มีสวนไม้ประดับขนาด 255 ไร่ ซึ่งใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัยของไทย พร้อมพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มี Campus ที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย “ทั้งหมดนี้ คือปัจจัยสำคัญที่สามารถรับประกันความมีคุณภาพระดับสากลของมหาวิทยาลัยฯ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้กับทั้งนักศึกษาและผู้ปกครองได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยแท้จริง” ศ.ดร.สมบัติ กล่าว.
สุพจน์ คำจันทร์ รายงาน