ทกจ.เชียงใหม่ เปิดทริปสุดพิเศษ “Muslim-Friendly” ดึงดูดนักท่องเที่ยวมุสลิม สัมผัสเสน่ห์ล้านนา-ลำพูน ในมุมใหม่!
ลำพูน – เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะสื่อมวลชนเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งสำคัญ ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนา Soft Power เพื่อเป็นต้นทุนพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง ด้วยการจัดทริป “Muslim-Friendly” (เป็นมิตรต่อมุสลิม) เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 (ลำพูน-ลำปาง) ระหว่างวันที่ 4-5 ตุลาคม 2568 โดยเริ่มต้นวันแรกที่จังหวัดลำพูน เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวมุสลิม
ทริปแรก เที่ยวเยือนเมืองบุญ ชมโคมแสนดวง และมรดกเก่าแก่ คณะสื่อมวลชนเริ่มต้นทริปอย่างสวยงาม ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน “ชมโคมแสนดวง” ที่ประดับประดาอย่างตระการตาและงดงามยิ่งนัก จากนั้น คณะได้เดินทางเข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งแรกของภาคเหนือ เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และศิลาจารึกอันเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ของอาณาจักรหริภุญไชย
นอกจากนี้ ยังได้เข้าชม พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมือง ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจ ที่นี่มีการจัดแสดงทั้ง สลุงหลวงน้ำทิพย์ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลในอดีต สินค้าโบราณ เครื่องแต่งกายข้าราชการโบราณ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในอดีต ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนในอดีตได้อย่างน่าติดตาม
ไฮไลต์ “Muslim-Friendly” สัมผัสวิถีหลากหลายที่มัสยิดอัลซอรี่ ความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อมุสลิม โดยเฉพาะการเข้าชม ชุมชนมัสยิดอัลซอรี่ลำพูน ใน ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน ชุมชนแห่งนี้สร้างความประทับใจด้วยการรวมตัวของชาวมุสลิมจากหลากหลายภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน ที่มาอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน โดยมี บิหลั่น นิพนธ์ วารุษ ให้การต้อนรับและแนะนำสถานที่ มัสยิดแห่งนี้จดทะเบียนขึ้นกับกรมศาสนาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 นับเป็นจุดพักและแหล่งวัฒนธรรมที่สำคัญสำหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวมุสลิม
ปิดท้ายวันแรกด้วยการเยี่ยมชม ลำพูนไหมไทย ใน ต.เวียงยอง เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาและศิลปะแห่ง ผ้าไหมยกดอกลำพูน
ซึ่งเป็นผ้าไหมไทยแท้ 100% ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชาวบ้านยังคงลงมือทำเองในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลี้ยงไหมจนกระทั่งได้ผ้าไหมเป็นผืน เป็นการอนุรักษ์งานหัตถศิลป์ที่ทรงคุณค่าและเปิดให้ผู้สนใจเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน
การจัดทริป “Muslim-Friendly” ครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงศักยภาพของภาคเหนือในการรองรับนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา วัฒนธรรม และภูมิปัญญาเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาต่อยอดให้เกิดการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงต่อไปในอนาคต.