17 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) ร่วมกับผู้นำท้องถิ่นคลองร้อยสาย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาตราสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีชุมชนคลองร้อยสายแห่งลุ่มน้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับชุมชน พัฒนาตราสินค้าให้โดดเด่น พัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวพร้อมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ ขับเคลื่อนควบคู่รักษาอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดย ผศ.ดร.วัฒนา รัตนพรหม อธิการบดี มรส. มอบหมายให้ ผศ.ดร.เสน่ห์ บุญกำเนิด รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและระบบอำนวยการ เป็นประธานการลงนามร่วมกับ อบต.บางใบไม้,อบตบางไทร,อบตบางโพธิ์,อบต.บางชนะ,อบต.คลองน้อย และ อบต.คลองฉนาก ร่วมแถลงข่าว
สำหรับพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มุ่งหวังให้พัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างทั่วถึง โดยมหาวิทยาลัยได้บูรณาการความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง 6 ตำบลในพื้นที่ชุมชนคลองร้อยสาย ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินโครงการร่วมกับชุมชนคลองร้อยสายมาอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งพัฒนาในด้านต่างๆเช่นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และระบบบริการพื้นฐาน,ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว ส่งเสริมธุรกิจต่อเนื่องกับการท่องเที่ยว,พัฒนากิจกรรมและบริการท่องเที่ยวให้มีความหลากหลาย และสนับสนุนการท่องเที่ยวสีเขียว,ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในชุมชนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ฯลฯ
โดยการลงนามในครั้งนี้สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาตราสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ยืนยันความมุ่งมั่นในการเป็น “มหาวิทยาลัยพัฒนาท้องถิ่น” โดยใช้ศักยภาพของสถาบันร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ผ่านความร่วมมือที่สร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำตาปีต่อไป.
สุพจน์ คำจันทร์ รายงาน
