Reporter&Thai Army นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

สภ.แม่แจ่มสนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตรวจยึดปืนพร้อมเครื่องกระสุนฯ หลังผู้ต้องหาจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ เมื่อเจอ จนท.ทิ้งของกลางตามจุดต่างๆแล้วหลบหนี ก่อนที่จะมามอบตัวที่ อ.แม่แจ่ม ในวันต่อมา

สภ.แม่แจ่มสนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตรวจยึดปืนพร้อมเครื่องกระสุนฯ หลังผู้ต้องหาจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ เมื่อเจอ จนท.ทิ้งของกลางตามจุดต่างๆแล้วหลบหนี ก่อนที่จะมามอบตัวที่ อ.แม่แจ่ม ในวันต่อมา

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 เวลาประมาณ 23.00 น. โดยการอำนวยการของ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ นายอำเภอแม่แจ่ม/ผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, พ.ต.อ. ธนเดช ประสานเสียง ผกก.สภ.แม่แจ่มฯ พ.ต.ท.เศกสันต์ หาญคำแพง รอง ผกก. ป.ฯ พ.ต.ท.อดุลย์ คำมูล สวป.ฯ มอบหมายให้ ร.ต.อ. ไพโรจน์ รัฐบำรุง รอง สวป.ฯ, ด.ต.ณรงค์ ศรีนวล, ด.ต.นพรัตน์ รู้ซื่อ, ด.ต.วิทยา ดอนชัย, ส.ต.ท.ศราวุฒิ วรรณการ, ส.ต.ท.อำพล โพธิ์พฤกษ์ ร่วมกับ นายกิตติพงษ์ ธิวงศ์ ปลัดอำเภอแม่แจ่ม นายเกรียงศักดิ์ เตชะเลิศพนา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 ต.แม่นาจร สมาชิก ธีรวุธ พิทาคำ สังกัดกองร้อย อส.อ.แม่แจ่มที่ 7, นายคมกฤต รัตนวิไลกุล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญการ นายเอกชัยมูล ประเสริฐ เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่า ส.3 หน่วยป้องกันรักษาป่า ชม.ที่ 18 (นางแล), นายบุญเลิศ สีม่วง เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ,นายอุดลย์ หนักแน่น,นายอัฐพงษ์ เตจ๊ะนา เจ้าหน้าที่ตรวจป่า หน่วยป้องกันรักษาป่า ชม.ที่ 17 (สบวาก) ตรวจยึดของกลาง อาวุธปืนลูกซองยาว, เครื่องกระสุน, รถยนต์กระบะ. รถยนต์กระบะ, โทรศัพท์มือถือ, วิทยุสื่อสาร, ถุงย่าม, กระเป๋าเป้สีดำ, มีด, เสื้อกันหนาวสีน้ำเงิน

ผู้ต้องหาคือนายปัญญา จะหละ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 90 หมู่ 4 ต.บ่อแก้ว อ. สะเมิง จ.เชียงใหม่ (เดินทางมามอบตัว) โดยกล่าวหาว่าข้อหา “เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร,มีและพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ต้องหาได้เดินทางมามอบตัว ที่ทำการอำเภอแม่แจ่ม

พฤติการณ์ในการจับกุม กล่าวคือ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 16.00 น. นายเกรียงศักดิ์ เตชะเลิศพนา ผู้ใหญ่บ้านแม่แจ๊ะ ม.13 ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ได้ตรวจพบมีไฟลุกไหม้ที่บริเวณป่าเหนือหมู่บ้าน จึงได้ไปตรวจสอบปรากฏพบรถยนต์ กระบะยี่ห้อ Toyota สีเขียว ทะเบียน ผข 5258 เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณชายป่า โดยรอบบริเวณที่รถยนต์จอดพบร่องรอยไฟไหม้เก่า โดยห่างจากจุดที่รถจอดประมาณ 700 เมตร พบไฟกำลังลุกไหม้ จึงได้กลับไประดมกำลังชาวบ้านประมาณ 20 คน ช่วยกันดับไฟป่า แล้วรายงานเหตุให้นายอำเภอแม่แจ่มทราบ นายอำเภอแม่แจ่มจึงได้สั่งการให้ นายกิตติพงษ์ ธิวงศ์ ปลัดอำเภอแม่แจ่ม นำกำลังเข้าร่วมตรวจสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ และตรวจสอบรถยนต์คันที่จอดไว้บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวซึ่งพบว่าปิดล็อคประตู โดยสันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์ของผู้ที่เข้ามาหาของป่าหรือล่าสัตว์ และอาจจะจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านพร้อมกับชาวบ้านจึงได้จัดกำลังซุ่มดูบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อรอคณะเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ได้มีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากป่าที่เกิดไฟไหม้ที่ชาวบ้านได้ช่วยกันดับแล้วมาที่รถยนต์คันที่จอดอยู่ดังกล่าว ผู้ใหญ่บ้านกับพวกที่ซุ่มดูจึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ โดยชายคนดังกล่าวยินยอมให้ตรวจสอบ แต่ขณะที่กำลังจะควบคุมตัวไว้ ชายดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป ขณะเดียวกันคณะเจ้าหน้าที่ปลัดอำเภอแม่แจ่ม พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาถึงที่เกิดเหตุ จึงได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์กระบะดังกล่าว และสำรวจบริเวณรอบๆ บริเวณ พบอาวุธปืนลูกซองยาว ขนาดเบอร์ 13 ไม่มีเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 17 นัดอยู่ในย่าม วางอยู่ในป่าห่างจากที่รถยนต์ดังกล่าวประมาณ 10 เมตร พบวิทยุสื่อสารยี่ห้อ Wanhua จำนวน 1 เครื่อง วางอยู่ห่างจากรถยนต์ดังกล่าวประมาณ 15 เมตร พบโทรศัพท์ยี่ห้อ NOKIA อยู่ในเสื้อกันหนาวแขนยาวสีน้ำเงินที่ชายดังกล่าวทิ้งไว้ พร้อมกระเป๋าเป้สีดำข้างในมีอาวุธมีดและขวดน้ำ และพบกุญแจรถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA วางอยู่ที่โคนต้นไม้ห่างจากรถยนต์กระบะดังกล่าวประมาณ 5 เมตร จึงได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์กระบะ ป้ายทะเบียน ผข 5258 เชียงใหม่ พบเอกสารภายในรถยนต์ ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน,ใบคู่มือจดทะเบียนรถ,เอกสารกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ปรากฏชื่อนาย ปัญญา จะหละ เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ และร่วมกันตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้เบื้องต้น พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม พื้นที่บ้านแม่แจ๊ะ หมู่ 13 ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว สันนิษฐานว่านายปัญญา จะหละ เป็นผู้กระทำความผิดที่หลบหนีไป ที่ได้เข้าไปล่าสัตว์ป่าแล้วเชื่อว่าได้จุดไฟเผาป่าเพื่อให้สะดวกแก่การไล่ล่าสัตว์ป่าโดยใช้อาวุธปืนลูกซองและกระสุนปืนที่ตรวจพบเป็นเครื่องมือในการล่าสัตว์และผลของการจุดไฟเผาป่าเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ป่าซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม ได้รับความเสียหาย โดยความเสียหายจะได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นว่าเป็นการกระทำความผิด จึงได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางและบันทึกเรื่องราวร้องทุกข์นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.แม่แจ่ม เพื่อดำเนินคดีกับนายปัญญา จะหละ ในข้อหา “เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร,มีและพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต” เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ทรงวุฒิ ทับทอง