ข่าว เพชรบุรี

ชาวบ้านเศร้า! วาฬตายอืดกลางทะเลปากอ่าวบ้านแหลม ภาวนาอย่าให้ใช่”วาฬ”ตัวขวัญใจนักท่องเที่ยว

ชาวบ้านเศร้า! วาฬตายอืดกลางทะเลปากอ่าวบ้านแหลม ภาวนาอย่าให้ใช่”วาฬ”ตัวขวัญใจนักท่องเที่ยว

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 62 เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาฯอ่าวไทยตอนบน พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.เพชรบุรี ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปากทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ช่วยกันนำซากวาฬบลูด้าที่มีความยาว 10 เมตร 50 เซนติเมตร ขึ้นบนฝั่งเพื่อตรวจสอบหลังชาวประมงพบซากลอยน้ำอยู่กลางทะเลอ่าวบ้านแหลม จึงลากมาไว้ใกล้ชายฝั่งทะเล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานและตรวจพิสูจน์

เบื้องต้นพบว่าสภาพวาฬบลูด้าเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บตัวอย่าง ตรวจเช็คข้อมูลเก็บหลักฐานภายนอกทั้งหมด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าตายจากสาเหตุใด ต้องทำการผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด

ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่พบวาฬบลูด้าตายบริเวณอ่าวบ้านแหลม และขอภาวนาอย่าเป็นวาฬบลูด้า ที่ขึ้นมาโชว์นักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำที่ปากอ่าวบ้านแหลม ซึ่งมักจะขึ้นเล่นน้ำกินปลาโชว์นักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปี โดยจะว่ายเล่นกันอยู่ 2 ตัว เป็นวาฬเพศผู้กับเพศเมีย
สำหรับวาฬบลูด้าที่ตาย เจ้าหน้าที่ได้นำรูปภาพถ่ายของวาฬบลูด้าที่อยู่ปากอ่าวบ้านแหลมมาเทียบตรวจสอบว่าใช้วาฬบลูด้าตัวเดียวกันหรือไม่ เบื้องต้นมีส่วนคล้ายกันมาก แต่ยังไม่สามารถระบุได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าใช้ตัวเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากสภาพวาฬบลูด้าเริ่มเน่าผิวหนังหลุดออก ต้องนำสัญลักษณ์รูปร่างไปเทียบกับภาพถ่ายขนาดใหญ่อีกครั้ง ถึงจะระบุได้ว่าเป็นตัวเดียวกันหรือไม่
ต่อมาเมื่อวันที่29 พ.ค.62 น. เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อ่าวไทยตอนบน) ลงพื้นที่ที่นำซากวาฬบรูด้าขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและผ่าพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตาย โดยวาฬบลูด้ามีความยาว10.เมตร50 เซ็นติเมตร เพศเมีย ขนาดยังไม่โตเต็มวัย ที่ปากยังมีเหมือนจุกสำหรับดูดนม โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการชำแหละเก็บชิ้นเนื้อ และจะทำการผ่าท้องซึ่งขณะอยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าน่าจะผ่าพิสูจน์แล้วเสร็จในวันเดียวกันเบื้องต้น จนท.กำลังอยู่ระหว่างหาสาเหตุการตาย
โดยเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี เผยว่า ยังต้องตรวจดูอวัยวะภายใน ซึ่งยังสรุปไม่ได้ว่าตายจากสาเหตุใด แต่ซากวาฬที่พบว่าตายนั้นทราบว่าเป็นวาฬที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นซึ่งยังไม่โตเต็มวัย
ส่วนชาวบ้านที่มีอาชีพชาวประมงรายหนึ่ง คาดการณ์ว่าไม่น่าจะใช่วาฬ 2 แม่ลูกที่เคยพบเห็นแหวกว่ายโผล่หากินอยู่กลางทะเล เพราะที่เคยเห็นอยู่เป็นประจำจะมีลักษณะตัวเล็กและสั้นกว่าซากวาฬที่ตายลอยอืดอยู่กลางทะเล อย่างไรก็ตามคงซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกครั้ง

กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี