กมธ.พัฒนาการเมืองฯ จัดสัมมนา “ปักหมุดประชานิยมอย่างไร ให้การเมืองไทยพัฒนา”

กมธ.พัฒนาการเมืองฯ จัดสัมมนา “ปักหมุดประชานิยมอย่างไร ให้การเมืองไทยพัฒนา” มุ่งพลิกโฉมการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมืองของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

วันที่ 27 ตุลาคม 2566 เวลา 08.30 นาฬิกา ณ ห้องจัดประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา คณะอนุกรรมาธิการด้านวิชาการและเสริมสร้างการให้ความรู้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา จัดสัมมนา เรื่อง “ปักหมุดประชานิยมอย่างไร ให้การเมืองไทยพัฒนา” โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวเปิดการสัมมนา นายจเด็จ อินสว่าง รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวรายงานและบรรยายพิเศษเรื่อง “นโยบายประชานิยม : กระจกสะท้อนการเมืองไทย” พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชนเข้าร่วม
.
นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือระดับท้องถิ่นก็ตาม สิ่งสำคัญของการได้มาซึ่งคะแนนเสียง คือ การหาเสียง และนโยบายที่พรรคการเมืองซึ่งส่งผู้สมัคร นโยบายหาเสียงต้องเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวม เป็นนโยบายที่สร้างเสริมความเจริญและความมั่งคั่งอันยั่งยืนให้ประชาชน ในขณะเดียวกันประเทศชาติต้องมีความมั่นคงด้วย ปัจจุบัน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับการแข่งขันเรื่องการหาเสียงของพรรคการเมือง นี่อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้พรรคการเมืองต้องคิดและหากลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ถูกใจหรือโดนใจประชาชนจึงเกิดนโยบายเชิงประชานิยมขึ้น อย่างไรก็ดี พรรคการเมืองในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ดี การประกาศนโยบายหาเสียงใด ๆ ควรจะได้ตระหนักถึงความคุ้มค่าแห่งประโยชน์อันสูงสุดที่ประชาชนและประเทศจะได้รับจากนโยบายนั้น และต้องมีความรับผิดชอบต่อนโยบายที่ได้ประกาศ ทั้งนี้ นอกจากฝ่ายบ้านเมืองหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจโดยตรงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเป็นธรรมอย่างที่สุดแล้ว ฝ่ายสถาบันการเมืองเองก็ต้องมีส่วนช่วยสนับสนุนหรือส่งเสริม

เพื่อให้ประเทศและพลเมืองของประเทศมีวัฒนธรรมและมีการปกครองและการบริหารที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างถูกต้องสมบูรณ์ การสัมมนาในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมากที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาทางการเมืองของประเทศอย่างยั่งยืน เนื่องจากจะได้มีการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนานาทัศนะ มุมมอง และข้อคิดต่าง ๆ จากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรอบรู้ มีวิสัยทัศน์ และมากด้วยประสบการณ์ในด้านกฎหมายและการเมืองการปกครอง ซึ่งจะได้อภิปรายและแลกเปลี่ยนกันในวันนี้ต่อไป
.
ในการสัมมนาครั้งนี้ มีการอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง “ปักหมุดประชานิยมอย่างไร ให้การเมืองไทยพัฒนา” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทาลัยบัณฑิตเอเชีย และนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมิติทั้งผลดีและผลเสียของนโยบายประชานิยมที่มีต่อพรรคการเมือง นักการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะได้เสนอแนะแนวทางการกำกับดูแลพรรคการเมืองให้มีความรับผิดชอบต่อการประกาศโฆษณานโยบายอีกด้วย

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน