ข่าว ร้อยเอ็ด

ร้อยเอ็ด… ผอ.กจสท.สส.ตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจ D.J. จส.3

ร้อยเอ็ด…
ผอ.กจสท.สส.ตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจ D.J. จส.3

*ประวัติความเป็นมาของ กจสท.สส.ซึ่งก่อตั้งเป็นสถานีวิทยุ ขึ้นเมื่อเดือน สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๑ โดย พล.ท.ผิน ชุณหะวัน ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ได้มอบหมายให้ กรมจเรทหารสื่อสาร จัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงทดลองขึ้นเป็นสถานีแรกใน กองทัพบก ใช้เครื่องส่งขนาด ๒๕๐ วัตต์ ความถี่ ๖๕๐ กิโลเฮิรตซ์ ความมุ่งหมายเพื่อแถลงข่าวของกองทัพบก และอบรมศีลธรรมแก่ทหารใช้ชื่อว่า “จส.๑“ หรือภาษาสากลว่า“HS ๑JS“ จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้เปลี่ยนเป็นแผนกกระจายเสียง กองการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ขึ้นตรงต่อ กรมการทหารสื่อสาร ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม (เฉพาะที่ ๘๙/๒๖๙๘๗) ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๗

**วันนี้ 1ก.พ.2562.พ.อ.อดิเทพ. มโนการ. (ผอ.กจสท.สส.) ผู้อำนวยการกองการกระจายเสียงวิทยุ และโทรทัศน์ เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานีวิทยุ จส.๓ ระบบ A.M. Stereo ที่ตั้ง มทบ.27 .ร้อยเอ็ด ถนนกองพลสิบ ต.เหนือเมือง อ.เมือง จว. ร้อยเอ็ด ความถี่ ๑๒๕๑ กิโลเฮิร์ท กำลังส่ง ๑๐ กิโลวัตต์ เขตบริการ ครอบคลุม จังหวัด ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ยโสธร, มุกดาหาร ,สุรินทร์, ศรีสะเกษ, เพื่อมาบำรุงขวัญกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา โดย ร.ต. หม่าน ปลัดจ่า( D.j.หนุ่มชุมแพ)ประสานไปยังผู้ดำเนินรายการวิทยุในท้องถิ่นเพอื่เดินทางมาร่วมเป็นภาคีเครือข่าย ร่วมรัปทานอาหารมื้อเที่ยงจำนวน 30 สถานี….

***อนึ่งร.อ.ธรรมรัตน์. สุวรรณไตร. หัวหน้าสถานีวิทยุกระจายเสียจังหวัดร้อยเอ็ด (จส.3). กล่าววว่า วิทยุกระจายเสียงมีคุณประโยชน์กว้างขวางแก่สังคมมนุษย์ ทั้งยามปกติและยามสงคราม ทหารที่ปฏิบัติราชการสงคราม แนวหน้าได้รับประสบการณ์ว่าทหารที่ออกปฏิบัติการรบในสมรภูมิห่างไกลบ้านเกิดเมืองนอน ไกลครอบครัว ไกลจากบ้านมิตร ไม่มีปัจจัยใดจะช่วยปลุกใจ และบำรุงขวัญได้ดีเทียบเท่ากับที่ได้ยินเสียงพ่อแม่ พี่น้อง บุตร ภรรยา ส่งข่าวสารถึงตนผ่าน วิทยุกระจายเสียง ออกอากาศจากครอบครัวทหารในแนวหลังให้กำลังใจบำรุงขวัญทหารในแนวรบ ได้ผลเป็นอย่างดี แต่ปรากฎว่า พอหน่วยทหารเคลื่อนที่รุกรบห่างไกลออกไป การรับฟังการกระจายเสียงของกรมประชาสัมพันธ์ทั้งคลื่นสั้น ยาวก็แผ่วเบาไม่ชัด เสียงขาดๆ หายๆ บางเวลาก็ถูกสถานีวิทยุจากต่างประเทศ รบกวนจนรับฟังไม่ได้ ทำให้รายการสื่อสัมพันธ์จากครอบครัวทหารในแนวหลังต้องชะงักงัน. ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าสถานการณ์การสู้รบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จะยุติลง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ สร้างความเลื่อมใสศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข รวมทั้งเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาลและกองทัพบกอยู่ต่อไป

ดำเนิน พรมไชยา/รายงาน