Uncategorized

ศรีสะเกษ ชาวโนนป่ายางกว่า 20,000 คนเตรียมเคลื่อนพลบุกศาลากลางทวงที่ดินทำกิน แกนนำประกาศลั่นทำกินมานานร่วม 100 ปีทางราชการจะให้ชาวบ้านเช่าที่ดินทำกินของตนเองได้อย่างไร ประกาศสู้ตายที่โนนป่ายางไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด

ศรีสะเกษ ชาวโนนป่ายางกว่า 20,000 คนเตรียมเคลื่อนพลบุกศาลากลางทวงที่ดินทำกิน แกนนำประกาศลั่นทำกินมานานร่วม 100 ปีทางราชการจะให้ชาวบ้านเช่าที่ดินทำกินของตนเองได้อย่างไร ประกาศสู้ตายที่โนนป่ายางไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด

 

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาวัดบ้านโนนสำนัก ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีบรรดาแกนนำของชาวบ้าน 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล ประกอบด้วย บ้านโนนแย้ บ้านโนนหล่อ บ้านโนนแดง บ้านเพียนาม ม.9 บ้านเพียนาม ม.3 บ้านโนนสำนัก ชุมชนโนนสำราญ ชุมชนกุดหวาย ในเขต 2 ตำบลคือ ต.หญ้าปล้อง กับ ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ ที่อาศัยอยู่ในเขตโนนป่ายาง ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่ทำกินกว่า 20,000 คน มานานร่วม 100 ปีแล้ว นำโดย ยายทองคำ ไชยชาญ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 11 ชุมชนโนนสำราญ ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มาร่วมประชุมปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับกรณีที่ข่าวว่า ทางราชการจะให้ชาวบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่โนนป่ายางเช่าที่ดิน ทั้งที่บริเวณนี้ชาวบ้านอยู่อาศัยและเป็นที่ทำกินมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว ซึ่งที่ดินโนนป่ายางบริเวณนี้ชาวบ้านได้ร่วมกันเรียกร้องที่ดินทำกินบริเวณนี้มานานกว่า 65 ปีแล้ว แต่ว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด โดยล่าสุด ยายทองคำ และแกนนำชาวบ้านได้พากันไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่มาประชุม ครม.เคลื่อนที่ที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อขอให้ช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 20,000 คน ที่อาศัยอยู่ที่เขตโนนป่ายางเพื่อขอสิทธิ์ในที่ดินทำกินแล้ว

 

ยายทองคำ ไชยชาญ อายุ 75 ปี แกนนำชาวบ้านโนนป่ายาง กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อเป็นการแจ้งให้แกนนำชาวบ้านโนนป่ายางทุกคนทราบว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าและข้อเท็จจริงของทางราชการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาโนนป่ายางอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการที่ทางราชการจะให้ชาวบ้าน 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล กว่า 20,000 คน เช่าที่ดินทำกินของตนเอง ที่อาศัยทำกินมานานกว่า 65 ปีแล้ว โดยชาวบ้านโนนแย้ หมู่ 7 และบ้านโนนหล่อ หมู่ 6 ต.หญ้าปล้อง ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2303 อยู่อาศัยมาก่อนที่ทางราชการจะประกาศให้โนนป่ายางเป็นที่สาธารณประโยชน์กว่า 65 ปี และบ้านโนนแดง หมู่ 6 ต.หนองไผ่ ตั้งขึ้นปี พ.ศ.2324 ก่อนประกาศขึ้นทะเบียนที่สาธารณประโยชน์โนนป่ายาง 44 ปี โดยมีชาวบ้านที่มีบัตรประชาชนยืนยันว่าเกิดที่บ้านโนนแย้ – บ้านโนนหล่อคือ นายสร้อย น้อยมิ่ง เกิดปี 2413 เกิดก่อนทะเบียนป่าสาธารณประโยชน์โนนป่ายาง 55 ปี นางปิง สำลี เกิดปี 2445 เกิดก่อนขึ้นทะเบียนโนนป่ายาง 23 ปี เป็นต้น โดยมีชาวบ้านโนนแดงที่มีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันคือ นางสี วงค์แจ้ง บุตรนายคำ พันธเสน เกิดที่บ้านโนนแดง โดยเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2466 เลขบัตรประชาชน 5330190004493 อยู่ที่บ้านเลขที่ 08 ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ เกิดก่อนทะเบียนที่ดิน 2 ปี

 

ยายทองคำ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งการประกาศเขตสาธารณประโยชน์โนนป่ายาง พื้นที่จำนวน 4,125 ไร่ ปรากฏว่าหลังจากที่แกนนำชาวบ้านได้ต่อสู้ในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องและทางราชการได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เขตโนนป่ายาง ไม่มีเขตพื้นที่และทิศใดถูกต้องตามสภาพข้อเท็จจริง แต่ได้ประกาศพื้นที่ทับที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของชาวบ้าน 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน เมื่อทางราชการหาเขตพื้นที่ของโนนป่ายางไม่ได้ จึงได้ทำการขีดเส้นเอาที่ดินใกล้ๆ ตัวเมืองศรีสะเกษ มีพื้นที่ 1,531 ไร่ อุปโลกน์ว่า เป็นเขตโนนป่ายาง แล้วที่ดินของโนนป่ายางตามทะเบียนเดิม 4,125 ไร่ หายไปจำนวนทั้งสิ้น 2,594 ไร่ ได้อย่างไร ชาวบ้านได้คัดค้านมาตลอด แต่ว่าทางราชการไม่เคยฟังเสียงของชาวบ้านดึงดันประกาศพื้นที่ 1,531 ไร่ เป็นที่สาธารณประโยชน์โนนป่ายาง พวกตนทำกินมานานร่วม 100 ปีแล้วทางราชการจะให้ชาวบ้านเช่าที่ดินทำกินของตนเองได้อย่างไร พวกตนทุกคนจะต่อสู้ตายที่โนนป่ายางไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด

ยายทองคำ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการทวงสัญญาการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ในวันที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา 09.00 น. ตนพร้อมด้วยแกนนำทุกคน จะนำชาวบ้านเขตโนนป่ายาง 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล กว่า 20,000 คน เดินเท้าจากบริเวณสามแยกบ้านคูซอดโดยจะมีขบวนกลองยาวหลายคณะมานำขบวนชาวบ้าน มุ่งหน้าไปยังศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อไปพบกับ ผวจ.ศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อต้องการให้ช่วยเหลือชาวบ้านโนนป่ายางตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนขอความกรุณาให้ ผวจ.ศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้มาพบกับชาวบ้านและชี้แจงให้ชาวบ้านทุกคนได้ทราบข้อเท็จจริงและความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาโนนป่ายางด้วย และตนขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่าได้พยายามไปขัดขวางการเดินทางมาชุมนุมของชาวบ้านโนนป่ายางอย่างเด็ดขาด เพราะพวกตนและชาวบ้านทุกคนรู้ว่า ขณะนี้มีส่วนราชการบางส่วน พยายามขัดขวางชาวบ้านที่กำลังเรียกร้องสิทธิ์ที่ดินทำกินโนนป่ายางที่อยู่อาศัยมานานหลายชั่วอายุคนมาโดยตลอด

 

ศิริเกษ หมายสุข / ศรีสะเกษ