3 มิถุนายน 2567 ที่สวนอิงธาร ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ดินแดนแห่งทุเรียนภูเขาไฟคึกคัก มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ แห่เข้ามาเที่ยวชมสวนกันอย่างเนืองแน่น จนรถติดหนึบ และมีการต่อแถวซื้อทุเรียนภูเขาไฟ จนเป็นแถวยาวเหยียด ถึงแม้ว่าราคาทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ในปีนี้ จะมีราคาที่สูงขึ้น เริ่มจากกิโลกรัมละ 180-250 บาท เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ร้อนจัด ฝนทิ้งช่วง จึงทำให้ผลิตผลิตในปีนี้ค่อนข้างมีปริมาณน้อย และจำกัด ประกอบกับมีล้งเข้ามารับซื้อเหมาสวนทุเรียนภูเขาไฟ เพื่อส่งออกต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ยอดขายทะลุเป้า และขายหมดเกลี้ยงภายในพริบตา ซึ่งนอกจากจะมีทุเรียนภูเขาไฟที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลกแล้ว ยังมีผลไม้ที่ปลูกในดินภูเขาไฟ ที่กำลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น เงาะโรงเรียน ลองกอง มังคุด และยังมีการแปรรูปทุเรียนภูเขาไฟ เป็นขนมหวาน บวดทุเรียน ไอศกรีมทุเรียน ข้าวเกรียบทุเรียน เป็นต้น ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมสวนได้ลิ้มรสชาติและซื้อกลับบ้านเป็นของฝากของที่ระลึกอีกด้วย นอกจากนี้ชาวสวนยังได้มีการจัดโปรโมชั่นบุพเฟ่ทุเรียนภูเขาไฟและผลไม้นานาชนิด ให้รับประทานแบบไม่อั้น ในราคาหัวละ 400-500 บาท ซึ่งเป็นที่สนใจของบรรดานักชิมเป็นอย่างมาก และมีการจองคิวยาวตลอดทั้งเดือนแล้ว โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ด้าน นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จ.ศรีสะเกษ นำโดย นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เตรียมจัดงาน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ประจำปี 2567” (LAVA Durian SISAKET 2024) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-18 มิ.ย. 2567 ที่ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้งานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ GI ศรีสะเกษ หรือ “LAVA Durian SISAKET” เป็นเทศกาลที่สนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกร ได้นำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการเชื่อมโยงและสร้างโอกาสทางการตลาด อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและการบริการ
คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โดยภายในงานจะมีการออกร้านจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะทุเรียนภูเขาไฟ เกือบ 100 ร้านค้า จากเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนแปลงใหญ่ GI ทั้ง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกันทรลักษ์ ขุนหาญ และอำเภอศรีรัตนะ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจแวะชม ชิม ช้อป ลิ้มรสทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากอัตลักษณ์รสชาติที่โดดเด่น “เนื้อเนียนนุ่ม ละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุน” อีกด้วย.
บุญทัน ธุศรีวรรณ รายงาน
