Reporter&Thai Army ข่าว นราธิวาส ข่าวเด่น

พบรถกระบะของบริษัทโค้กที่โจรใต้ปล้นแล้ว โดยทิ้งไว้บริเวณเนินเขาก่อนหนี

12 มีนาคม 67 พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.จะแนะ พ.อ.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผบ.ฉก.ทพ.45 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ควบคุมตัว นายอุทัย สุกสีแดง คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ แบบตอนเดียว สีขาว ทะเบียน ผธ 597 สงขลา ของบริษัทหาดทิพย์จำกัด (มหาชน) ที่ถูกคนร้าย จำนวน 6 ถึง 7 คน แต่งกายคล้ายทหารและสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า พร้อมอาวุธปืนครบมือได้ปล้นชิงทรัพย์รถยนต์กระบะ ขณะที่นายอุทัย ขับรถยนต์กระบะบริเวณถนนสายชนบท 4011 บ้านกูแบกูตง ม.1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.10 น. ของวันที่ 11 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ก่อนที่คนร้ายจำนวน 7 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือจะควบคุมตัวนายอุทัย เข้าไปในป่า พร้อมใช้อาวุธปืนขู่บังคับไม่ให้หลบหนีหรือตะโกนขอความช่วยเหลือ มิเช่นนั้นจะใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ส่วนคนร้ายอีก 1 คน ได้ขับรถยนต์กระบะออกไป


ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอุทัย ซึ่งถือว่าเป็น 1 ในผู้เสียหายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไปชี้ยังจุดที่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนปล้นเอารถยนต์กระบะไป ซึ่งบรรยากาศ 2 ข้างทางเป็นป่าสวนยางพารา โดยนายอุทัย พบเห็นกลุ่มคนร้ายซึ่งแต่งกายเลียนแบบทหารพราน เมื่อโบกรถนายอุทัย จึงจอดคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่และถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขู่บังคับก่อนที่จะนำรถไป และเมื่อคนร้ายนำรถยนต์กระบะไปแล้ว กลุ่มคนร้ายประมาณ 8 ถึง 9 คน ได้ยึดโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตของนายอุทัย ก่อนที่จะควบคุมตัวนายอุทัยเดินเข้าไปในป่าสวนยางพารา ซึ่งห่างจากถนนสายหลัก ประมาณ 100 เมตร จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 โมง คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะที่ปล้นจากนายอุทัย มารับกลุ่มคนร้ายที่ควบคุมตัวนายอุทัยไป พร้อมได้ปล่อยตัวนายอุทัย เป็นอิสระโดยที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด จนนายอุทัยได้สอบถามชาวบ้านเพื่อเดินไปยังบ้านของกำนัน และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 11 มี.ค.67 พร้อมนำตัวนายอุทัย ซึ่งเป็น 1 ผู้เสียหายในครั้งนี้ ไปสอบสวนที่ สภ.จะแนะ ซึ่งต้องเสียเวลาในการประสานแจ้งเตือนพื้นที่อำเภอใกล้เคียง ในการสกัดกั้นและเฝ้าระวังที่คนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุ โดยที่ตัวนายอุทัย ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าคนร้าย เนื่องจากเกรงจะถูกทำร้าย รวมทั้งกลุ่มคนร้ายบังคับให้ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผกก.สภ.ระแงะ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณเสาไฟและจุดตรวจจุดสกัดต่างๆในพื้นที่ และพบว่า หลังจากที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุปล้นรถยนต์กระบะของบริษัทหาดทิพย์จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ อ.จะแนะ เมื่อเวลา 16.10 น. รถยนต์คันดังกล่าวกล้องวงจรปิดที่จุดตรวจลาไม ซึ่งอยู่ด้านหลังของตลาดสดเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ สามารถบันทึกเอาไว้ได้โดยคนร้ายขับผ่านเวลา 16.37 น. และคนร้ายได้ขับไปจอดที่บริเวณหน้าร้านอัครวัสดุภัณฑ์ ของนายอัครวิทย์ โสภณวิริยา ที่วงจรปิดสามารถจับภาพรถยนต์คันดังกล่าวได้ในเวลา 17.10 น.ที่คนร้าย จำนวน 3 คน เห็นนายอัครวิทย์ กำลังปิดร้านและเดินถือกล่องพัสดุเพื่อที่จะข้ามไปยังบ้านพักฝั่งตรงกันข้าม คนร้ายได้จอดรถยนต์กระบะ 1 ใน 3 คนร้าย ได้ลงจากรถในมือถืออาวุธปืนเอ็ม.16 เดินไปหานายอัครวิทย์ พร้อมบอกให้นายอัครวิทย์มอบเงินในกล่องที่คนร้ายคาดว่าเป็นเงินสด ที่แท้คือขนมที่นายอัครวิทย์ได้สั่งซื้อจากเฟสบุ๊ค ซึ่งนายอัครวิทย์ ได้มอบกล่องพัสดุให้กับคนร้ายแตโดยดี ก่อนที่คนร้ายจะเดินไปขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนี โดยผ่านเส้นทางจุดตรวจดารุสสลาม โดยมุ่งหน้าที่ยัง ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ คนร้ายได้ทำโทรศัพท์มือถือตกหล่นไว้ 1 เครื่องที่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานไว้ตรวจสอบ
ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.อาภากร ผกก.สภ.ระแงะ ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหา พร้อมประสานไปยังพื้นที่อ สภ.ใกล้เคียง เพื่อสกัดกั้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบรถยนต์คันดังกล่าวแต่อย่างใด


ต่อมาเวลา 07.00 น.วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.อาภากร ผกก.สภ.ระแงะ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จอดอยู่บริเวณริมถนนเชิงเขาเมาะแตในพื้นที่รอยต่อ อ.ศรีสาครกับ อ.ระแงะ ช่วงบริเวณบ้านตะเคียนต้นเดียว ม.1 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางร่วมกับ พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.อ.สิทธิชัย บำรุงเขต ผบ.หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส พ.อ.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผบ.ฉก.ทพ.45 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดสุนัขสงคราม จากชุดควบคุมที่ 543 ฉก.สันติสุข กองร้อยสุนัขทหาร ฉก.อโณทัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้ใช้สุนัขทหารดมกลิ่นทำการตรวจสอบรอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ที่จอดไว้อยู่ในลักษณะรถยนต์ชิดขอบไหล่ถนนส่วนหน้ารถเบี่ยงเข้าไปในป่า ช่วงบริเวณเนินสูงของเขาเมาะแต แล้วเจ้าหน้าที่ อี.โอ.ดี.ได้ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุโลหะในการตรวจสอบซ้ำ ทั้งภายในห้องโดยสารกระบะบรรทุกหลัง รวมไปถึงห้องเครื่องยนต์ ไม่สามารถตรวจสอบพบสิ่งแปลงปลอดหรือวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดแต่อย่างใด แถมกุญแจรถยนต์ยังเสียบคาพวงมาลัยไว้ จนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงตามบริเวณที่ต่างๆรอบตัวรถทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะพวงมาลัยและมือจับประตูเปิดปิดรถ เพื่อนำไปตรวจสอบตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนที่จะนำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมายัง สภ.ระแงะ
รายงานข่าวจากแหล่งข่าวหน่วยความมั่นคง เปิดเผยว่า เหตุที่คนร้ายนำรถยนต์กระบะมาจอดในบริเวณดังกล่าว เนื่องมาจากคนร้ายน่าจะนำกำลังหลบหนีขึ้นไปบนเทือกเขาเมาะแต หรือ อาจจะมีการนัดแนะสมาชิกในกลุ่มรวมทั้งแนวร่วมอาจจะนำรถมารับในการหลบหนี หลังจากร่วมก่อเหตุแล้วเสร็จ จากการประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นความน่าเป็นไปได้ คือกลุ่มคนร้ายต้องการประสงค์ต่อทรัพย์สินหรือเงินสด จึงได้ก่อเหตุปล้นรถยนต์เพื่อใช้เป็นพาหนะในการอำพรางตัว โดยทรัพย์สินหรือเงินสดที่ได้จะนำมาใช้จ่ายซื้อหาเสบียงอาหารยังชีพในป่า โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนหรือละศีลอด ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาในช่วงระหว่างคาบเกี่ยวเดือนรอมฎอนหรือ ถือศีลอด กลุ่มคนร้ายเคยก่อเหตุปล้นทรัพย์ในลักษณะนี้มาแล้วเมื่อ 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา


นอกจากนี้แหล่งข่าวรายเดียวกันยังเปิดเผยถึง แนวทางในการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานสำคัญที่คนร้ายได้ทำตกหล่นไว้บริเวณหน้าร้านอัครวัสดุภัณฑ์ ของนายอัครวิทย์ คือ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบว่าเป็นของผู้ใดที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ในเครื่องนี้ โดยสามารถตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือทางทะเบียนราษฎร์ ว่ามีลายนิ้วมือแฝงที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบตามบริเวณต่างๆของตัวรถยนต์กระบะหรือไม่ หากตรงกันก็สามารถทราบว่าใครเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ และการติดต่อโทรศัพท์มือถือหมายเลขนี้ที่ผ่านมา ได้โทรไปพูดคุยกับใครบ้างในอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคดีนี้ถือว่าไม่ลำบากที่จะสาวไปถึงบุคคล

นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  รายงาน