Uncategorized

พะเยา แปลกแต่จริง ชาวบ้านขอโชค สุดเหี้ยน ต้นมะค่ายักษ์โบราณอายุ 500 ปี ในสุสาน(ป่าเฮี่ยว)

พะเยา แปลกแต่จริง ชาวบ้านขอโชค สุดเหี้ยน ต้นมะค่ายักษ์โบราณอายุ 500 ปี ในสุสาน(ป่าเฮี่ยว)

กลุ่มชาวบ้านตำบลท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยาพากันเอาดอกไม้ธูปเทียน ไปเซ่นไหว้ ขอโชคลาภกันต้นมะค่ายักษ์โบราณขนาด 6 คนโอบ อายุร่วม 500 ปี ที่ยืนต้นสูงตระหง่าน ประมาณ 20 เมตร แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วบริเวณ ด้านหลังเมรุเผาศพ ภายในสุสาน หรือ(ป่าเฮี่ยว)วัดลี ต.ท่าวังทอง

 

หลังจากที่ชาวบ้านเชื่อว่าการขอโชคลาภเสี่ยงทายเคยไปขอจากที่ไหนๆๆมาแล้วหลายที่หลายแห่ง แต่ครั้งนี้จะขอให้มีโชคลาภแบบจะๆๆเจ๋งๆๆ และไม่ให้พลาด จึงพากันมาเซ่นไหว้ขอโชคลาดกันต้นมะค่ายักษ์โบราณภายในสุสานบ้าง เพราะมีความเหี้ยนสุดๆๆๆ และคงไม่ผิดหวัง หลังจากที่หลายคนต่างก็พากันก้มหน้าก้มตาเอาแป้งลูบโดยใช้นิ้วมือถือๆๆๆๆๆลูบคลำ ต่างพากันได้เลขไปตามๆ กัน บางคนได้ 2ตัว บางคนได้ 3ตัว เมื่อสอบถามว่าได้เลขอะไรกันบ้างแต่ละคนพากันไม่พูด บอกเพียงแต่ว่าบอกไปเดี๋ยว จะไม่ได้โชค ขออุบเอาไว้เพื่อนำไปแทงหวยและซื้อหวยไว้เผื่อจะได้รางวัลใหญ่

นายทองคำ ครองทรัพย์ ชาวบ้านชุมชนบ้านสันขะเจ๊าะ ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา กล่าว่า การพากันมาขอโชคลาภกับต้นมะค่ายักษ์โบราณอายุร่วม500 ปี หรือมากว่า ครั้งนี้เพราะชาวบ้านมีความเชื่อว่าการขอโชคกันต้นมะค่าเก่าแก่มีอายุ ในสุสานจะมีความเข้มขลังสุดๆๆ ไม่เหมือนกับการขอจากที่อื่น เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าสุสานหรือ(ป่าเฮี่ยว) นั้นมีความเหี้ยนขนาดไหน และการขอโชคครั้งนี้ตนเองได้ใช้แป้งลูบก็มองเห็นตัวเลขกับต้นมะค่าอย่างชัดเจน แต่ไม่ขอบอกว่าเลขอะไร หากบอกไปจะไม่ถูกหรือชวดไป หรือเรียกว่า (แก๋น-ภาษาถิ่นชาวเหนือ) หากใครต้องการขอโชคก็ให้มาได้ที่สุสานวัดลี โดยต้นมะค่ายักษ์โบราณจะยืนต้นอยู่ด้านหลังเมรุ เผาศพพอดี

 

พระคำนึง กตปัญฺโญฺ พระลูกวัด วัดลี ตงเวียง อ.เมือง จ.พะเยา กล่าวว่า สุสานวัดลี หรือคนโบราณเรียกว่าป่าช้าเงี้ยว (หรือป่าเฮี่ยวเงี้ยว ) มีมาตั้งแต่โบราณกาล ในอดีตจะเผาศพโดยเผาบนเชิงตะกอน กลางที่โล่งแจ้งโดยใช้ไม้ท่อนฟื้น เป็นเชื้อเพลิง แต่มามีพัฒนาเผาศพในเตาเผาแบบเตาชีวมวล ใช้แก๊ส เป็นเชื้อเพลิง และสุสานวัดลีเป็นที่ธรณีสงฆ์ ของวัดลี โดยมีท่านเจ้าคุณพระวิมลญาณมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดพะเยา เจ้าอาวาสวัดลี เป็นผู้ดูและรับผิดชอบร่วมกับชุมชนวัดลี ศรีจอมเรือง และตำบลท่าวังทองและ อบจ.พะเยา
สำหรับต้นมะค่ายักษ์โบราณ ขนาด5-6 คนโอบสูงประมาณ20 เมตรขึ้นยืนต้นด้านหลังเมรุเผาศพ ได้มีผู้คนพากันเข้ามาเซ่นไหว้ขอโชคลาภก็เป็นความเชื่อของชาวบ้าน และก็ไม่ได้ส่งเสริมสนับสนุนซึ่งก็ได้เข้ามาดูเพราะว่าสุสาน วัดลีอยู่ในความดูแลของวัดลี และการขอโชคเป็นเชื่อความเชื่อส่วนบุคคลซึ่งก็ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใดและสุสานวัดลีเมื่อก่อนนั้นเคยเป็นป่าไผ่ และเป็น สถานที่เผาศพของคนชาวบ้านและชาวเงี้ยว มาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน

 

 

สำหรับบรรยากาศภายในสุสานพบว่าร่มรื่นเพราะว่ามีต้นไม้ หลากหลายชนิดยืนต้นกระจายไปทั่วบริเวณสุสานโดยทางวัดลีและชุมชนตำบลท่าวังทองร่วมกันอนุรักษ์รักษาต้นไม้ภายในสุสานจนเป็นป่าไม้ผืนสุดท้ายที่อยู่ในตัวเมือง พะเยา และอยู่ในชุมชน 2 ตำบลใช้ร่วมกันคือ ตำบลท่าวังทองและตำบลเวียง ที่สำคัญสุสานวัดลี นั้นเป็นสุสานเก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ที่มีทั้งเรื่องเขย่าขวัญ และน่าสะพรึงกลัวมากในอดีต แต่ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมได้เปลี่ยนไปทำให้สุสานวัดลี เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่สำคัญสุสานวัดลีหรือ(ป่าเฮี่ยว)ก็ยังเป็นสถานที่สร้างความหวังให้กับขอหวย อยู่ไม่น้อยเพราะเชื่อในความเหี้ยน ของสุสาน เก่าแก่ จึงพากันเข้าไปขอโชคดังกล่าว

ขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าวได้เอาแป้งลูบต้นไม้ก็ได้พบเห็นตัวเลข 2 ตัว 39-16 บางคนได้ 3 ตัวแต่ยอมบอก โดยกล่าวว่า อยากโชคได้เลขให้มาขอเอาคนเดียว แต่ต้องเอาใจ และความกล้า มาด้วย