Uncategorized

ร้อยเอ็ด ศูนย์ดำรงธรรมฯฟันวินัยร้ายแรงครูเบี้ยวหนี้เพื่อนครูผู้ค้ำประกันจนถูกยึดทรัพย์และที่ดิน

ชัยสิทธิ์/ร้อยเอ็ด

ร้อยเอ็ด ศูนย์ดำรงธรรมฯฟันวินัยร้ายแรงครูเบี้ยวหนี้เพื่อนครูผู้ค้ำประกันจนถูกยึดทรัพย์และที่ดิน

จ.ร้อยเอ็ด – ศูนย์ดำรงธรรมฯนำคณะกรรมการชุดใหญ่ ประกอบด้วย รองผู้ว่า ราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานการประชุม อัยการคุ้มครองสิทธิ์ ช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด ผอ. กลุ่มงาน ศคช จังหวัด ตัวแทน มทบ. 27 จังหวัดร้อยเอ็ด ผอ. บังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด ผอ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ดเขต 3 นายกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพครูอำเภอโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้จัดการธนาคารออมสินสาขาโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้แทนธนาคารกรุงไทยสาขาเสลภูมิ ตัวแทนธนาคารกรุงไทยสาขาโพนทอง พร้อมด้วยผู้เสียหาย และสื่อมวลชน ร่วมกันพิจารณาไกล่เกลี่ยจากครูผู้ร้องเรียน 10 ราย สรุปผลการประชุมมีมาตรการเด็ดขาด 6 มาตรการ คือ 1.ให้มีการปรับโครงสร้างหนี้และสอบวินัย นางปวีณา เพิ่มผล ผู้กู้ที่เป็นต้นเหตุ 2.ให้ดำเนินการหักเงินเดือนผู้กู้ชำระหนี้หลังจากผู้กู้/ผู้ค้ำปรับโครงสร้างหนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่พบว่าสามารถหักเงินผู้กู้ชำระหนี้ได้ 3.การเปิดเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมาย 4.ให้ติดต่อกรมบังคับคะดีขอชะลอชำระหนี้โดยเร็ว 5-6 ขอให้เป็นไปตามข้อบังคับกฎหมาย

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ที่ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 รวม 6คน ประกอบด้วย นายเสถียร ขันเงิน(ผู้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ) , นางจุฬาลักษณ์ อัศวภูมิ, นางอรุณี ศักดิ์วงศ์, นางสาวภัทราวรรณ วรรณศิริ , ดร.ภัทรวรรชน์ นิวแก้วบวรวิชญ์ และนางสุนา ดวงวงษา เดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เนื่องจากได้ร่วมกันค้ำประกันเงินกู้ธนาคารออมสิน รวมเงินกว่า 5 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมชำระหนี้ ทำให้ธนาคารออมสินยื่นฟ้องเรียกเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย และถูกยึดอายัดเงินปันผลสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ฟ้องบังคับคดีประกาศยึดอายัดเพื่อขายทอตลาด เพื่อชำระหนี้ให้ผู้กู้ ส่วนผู้กู้ยังเฉยไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ จึงร่วมกันเดินทางเข้าขอความเป็นธรรม จาก นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ด้าน ผู้ว่าฯ มอบศูนย์ดำรงธรรมเข้ารับหนังสือ พร้อมขอเวลาแก้ปัญหา และรับฟังผลภายใน 1 เดือน

เมื่อเวลา 13.30น.ที่ห้องประชุมพระเวชสันดร ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่า ราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานการประชุม นายรุ่งวิทย์ประนิธิ อัยการคุ้มครองสิทธิ์ ช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด นายสนอง ดลประสิทธิ์หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด นายมาวิน ยศรุ่งเรืองวัฒนา ผอ. กลุ่มงาน ศคช จังหวัด พันตรีเดชา บุญแสง ตัวแทน มทบ. 27 จังหวัดร้อยเอ็ด นางวาสนา ปัดถาโร ผอ. บังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด นายสุภาพ วงษามาตย์ ผอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ดเขต 3 นายประจวบ นาก้อนทอง นายกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพครูอำเภอโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด นายสมควร พลเยี่ยม ผู้จัดการธนาคารออมสินสาขาโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด ตัวแทนธนาคารกรุงไทยสาขาโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยผู้เสียหายผู้ค้ำประกัน 10 ราย นายสุทธิชัย อุปปะ เลขาสมาคมสื่อมวลชนร้อยเอ็ด และคณะกรรมการ ร่วมกันพิจารณาไกล่เกลี่ยจากครูผู้ร้องเรียน 10 รายได้แก่ ผู้กู้รายที่ 1 นางปวีณา เพิ่มผล ผู้ค้ำ 1.ชพค.โครงการ 7 (เงิน 3 ล้านบาท และดอกเบี้ยเกือบ 1 ล้านบาท) คือ 1)นายเสถียร ขันเงิน ถูกอายัดเงินปันผล 54,122.04 บาท 2) นางสาวภัทรวรรณ วรรณศิริ ถูกอายัดเงินปันผลจำนวน 41,426.66 บาท และที่ดินจำนวน 6 ไร่ 3)นายเทศ บุตรลักษณ์ เสียชีวิต 2.โครงการเงินกู้วิทยฐานะ (เงิน 2.6 แสนบาท) 1)นางสุนา ดวงวงษา ถูกอายัดเงินปันผล 72500 บาท 2)นางอรุณี ศักดิวงศ์ ถูกอายัดเงินปันผล 77,872.24 บาท 3)นางจุฬาลักษณ์ อัศวภูมิ 3.โครงการเงินกู้ธนาคารประชาชน 1)ดร.ภัทรวรรธน์ นิลแก้วบวรวิชญ์ ถูกอายัดเงินปันผล

ผู้กู้รายที่ 2 คือ นางมาลัย วงศ์อนุ(ข้าราชการบำนาญ) 1.เงินกู้โครงการสวัสดิการออมสิน ผู้ค้ำ 1)นางสมร แดนพิบูลย์ (เงิน1.6แสนบาท) ถูกอายัดที่ดิน 2.โครงการประชาชนออมสิน(6หมื่นบาท) ผู้ค้ำ 1)นายคำพอง ยอดศิริ(ห้ามทำธุรกรรมการเงิน),3.โครงการกรุงไทยอเนกประสงค์ (เงิน2.6แสนพร้อมดอกเบี้ย 5 แสนบาท) ผู้ค้ำประกัน 1)นายคำพอง ยอดศิริ(ห้ามทำธุระกรรมทางการเงิน)

นายประจวบ นาก้อนทอง นายกสมาคมครูอำเภอโพนทอง กล่าวว่า.-จากการร้องเรียนของครูผู้ค้ำประกัน 2 ราย ในรายของนางมาลัย วงศ์อนุ ข้าราชการบำนาญผู้กู้ 3 โครงการเงินกู้รวม 5.2ล้านบาท มีผู้ค้ำประกัน 3 ราย ปรากฏว่าผู้กู้นางมาลัย วงศ์อนุ ลาออกหายตัวไปไม่มีเงินเดือน โดยที่ผู้ค้ำประกันต้องชดใช้ตามกรณี

แต่ กรณีผู้กู้ นางปวีณา เพิ่มผล ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านคำอุปราช สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 กับพวก จำนวน 5 คนได้ทำนิติกรรมสัญญาค้ำประกันเงินกู้ของนางปวีณา เพิ่มพล ไว้กับธนาคารออมสินสาขาโพนทอง จำนวน 3 นิติกรรมสัญญา ต่อมานางปวีณา เพิ่มพล ผิดนัดชำระหนี้ จนเป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันทั้ง 5 คน ถูกอายัดทรัพย์ทั้งเงินและทรัพย์สิน เงิน 4,260,000 บาท แต่ผู้กู้ไม่ได้ถูกอายัดทรัพย์สิน เพราะไม่มี ทราบว่าได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่การเงิน ไม่ให้หักเงินเดือนชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ผู้คำถูกอายัดทรัพย์และชำระหนี้เงินกู้แทน

นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สรุปผลการประชุมว่า.-ผลการประชุมคณะกรรมการผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามข้อเรียกร้องของครูผู้ค้ำประกันทั้ง 6 ราย คือ 1.ให้มีการปรับโครงสร้างหนี้และสอบวินัย นางปวีณา เพิ่มผล ผู้กู้ที่เป็นต้นเหตุ 2.ให้ดำเนินการหักเงินเดือนผู้กู้ชำระหนี้หลังจากผู้กู้/ผู้ค้ำปรับโครงสร้างหนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่พบว่าสามารถหักเงินผู้กู้ชำระหนี้ได้ 3.การเปิดเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมาย 4.ให้ติดต่อกรมบังคับคะดีขอชะลอชำระหนี้โดยเร็ว 5-6 ขอให้เป็นไปตามข้อบังคับกฎหมาย

นายประจวบ นาก้อนทอง นายกสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพครูโพนทอง อ.โพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวตอนท้ายว่า.-ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน ขอความช่วยเหลือ จากนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 แต่เรื่องไม่คืบหน้าผู้กู้ไม่ยอมมาชำระหนี้ ทั้งที่ยังเป็นครูมีเงินเดือนอยู่ จึงมาขอความช่วยเหลือในวันนี้ ผลเจรจาน่าพอใจระดับหนึ่ง แต่ก็หนักใจว่า หากเรื่องล่าช้า ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น ผู้ค้ำประกันก็ยังมีความทุกข์ใจ ขอให้ทางเขตได้บังคับให้ นางปวีณา เพิ่มผล ผู้กู้มาประนอมหนี้ให้ได้(วันนี้ไม่ยอมมาไกล่เกลี่ยทั้งๆที่แจ้งเจ้าตัวแล้ว) และเรื่องผลการบังคับคดี ขอให้ทางเขตทำหนังสือขอความกรุณาต่อศาลเพื่อชะลอหนี้ ลดความเดือดร้อนของผู้ค้ำประกันได้ อยากให้บัญชีเคลื่อนไหวบ้าง เพื่อบรรเทาต่อศาลในการบังคับคดี เกรงว่าจะอายัดเงินผู้ค้ำประกันอื่นๆอีก

//////////////////////////////////////////