ข่าว นราธิวาส

รมว.ยุติธรรมเป็นปลื้มงานไกล่เกลี่ยปรับทุกข์ให้ชาวบ้าน 4 จชต.หลังพบเจ้าหนี้ยกหนี้ให้ชาวบ้านถึงกับปล่อยโฮ

รมว.ยุติธรรมเป็นปลื้มงานไกล่เกลี่ยปรับทุกข์ให้ชาวบ้าน 4 จชต.หลังพบเจ้าหนี้ยกหนี้ให้ชาวบ้านถึงกับปล่อยโฮ ส่วนเหตุพลุระเบิดที่สุพรรณต้องรื้อฟื้นระบบความปลอดภัยหาผู้รับผิดชอบ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ม.ค.67 ที่ห้องประชุมโรงแรมอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะประกอบด้วย นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขาฯ รมว.ยุติธรรม นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ และนายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครนราธิวาส คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานโครงการส่งเสริม และเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความยุติธรรมด้านการบังคับคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมีนายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี ได้จัดขึ้นร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.และหน่วยงานเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ รวม 8 แห่ง ซึ่งมีลูกหนี้จำนวน 3,834 ราย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุนทรัพย์รวมทั้งสิ้น 692,221,242 บาท ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 6,838 เรื่อง ทุนทรัพย์กว่า 125 ล้านบาท
ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้นอกจากที่ประชาชนได้รับหนังสือจากเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ เดินทางมาร่วมงานแล้ว ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ได้ถือโอกาสเดินทางมาปรึกษาหารือ เพื่อปรับลดปัญหาหนี้สิน ก่อนที่จะถูกการบังคับคดี ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่มาจากการกู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ร้อยละ 60 ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ การลงทุนด้านเกษตรกรรม และเมื่อสอบถามส่วนใหญ่พึ่งพอใจกับงานที่จัดขึ้น อันดับแรกคือมีความสบายใจจากการลดหย่อนการจ่ายเงินค่างวดที่ลดลง ทำให้ผู้ค้ำประกันไม่ต้องมาเดือดร้อนจากการจ่ายหนี้สินแทน ซึ่งประการสำคัญลูกหนี้ส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นความโชคดีที่เครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆเห็นอกเห็นใจที่ต้องปะสบปัญหาอุทกภัย จึงได้ลดหย่อนข้อตกลงต่างๆที่ลูกหนี้แต่ละรายสามารถจ่ายได้ โยที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน
ด้าน น.ส.นูรดียา บาวาโซ๊ะ อายุ 33 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.1 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 1 ในลูกหนี้ที่เดินทางมาร่วมงานไกล่เกลี่ยหนี้สินในครั้งนี้ ได้เปิดเผยด้วยน้ำตกคลอเบ้าต่อหน้า พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรมว่า ตนติดหนี้บริษัทโตโยต้า 380,000 บาท เกิดสภาวะน้ำท่วมที่บ้านเกือบมิดรถยนต์ ไหนก็ต้องซ่อมรถยนต์มีค่าใช้จ่ายเยอะ ซึ่งจากสภาพบ้านที่พังเสียหาย ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเยอะแล้ว และมาโดนกับรถยนต์อีก

เราก็ไม่มีจะจ่ายแล้วทนายก็โทรมาแจ้งว่า ต้องจ่ายเป็นก้อนแต่เราก็ไม่มีจ่าย พอดีกับมาเจอโครงการนี้เราคุยกันและตกลงว่าต้องการคืนรถ ซึ่งถ้าคืนรถแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นส่วนต่างความเสียหายหรือค่าสึกหร่อก็เลยตัดสินใจคืนรถดีกว่า จะได้เอาเงินไปซ่อมบ้านจากอุทกภัยน้ำท่วม ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณโครงการนี้มากๆ
พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กรณีผู้ค้ำประกันหนี้ กยศ.ตอนนี้เราปลอดผู้ค้ำประกันแล้ว ซึ่งใครที่เคยค้ำประกันไว้ไม่ต้องมารับภาระค้ำประกัน เนื่องจากมีช่องกฎหมายที่จะต้องให้ผู้ค้ำมารับรู้ แต่ในกระบวนการของกฎหมายจะต้องให้ผู้ค้ำมาแสดงตัวด้วย ซึ่งเท่าที่พบตัวเลขมีอยู่ 2 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ ซึ่งผู้ค้ำประกันก็เปรียบเสมือนลูกหนี้ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายผู้ค้ำประกันต้องจ่ายแทน โดยต้องถูกยึดทรัพย์สินบังคับคดี ซึ่งครั้งนี้เป็นนวัตกรรมในการแก้หนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษา ที่จริงเป็นหนี้ที่รัฐเป็นผู้กำหนด แต่ว่ากองทุนนี้เราจะให้เป็นกองทุนใช้สำหรับให้กับคนรุ่นหลังเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ว่าจะยกเลิกผู้ค้ำประกัน ซึ่งสรุปแล้วผู้ค้ำประกันจะได้รับการยกเลิก ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันอีกต่อไป ไม่มีพันธะว่าจะต้องวิตกกังวล ในกรณีที่ลูกไม่จ่ายเพราะแม่ต้องรับผิดชอบแทน
ส่วนกรณีที่ จ.สุพรรณบุรีซึ่งเป็นโรงงานพลุระเบิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 รายนั้น พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ที่สำคัญไม่อยากให้เกิดเลยที่สุพรรณบุรีเกิดมาแล้ว 1 ครั้งแล้วมาเกิดขึ้นอีก คงจะต้องดูว่าที่เกิดขึ้นแม้จะตั้งอยู่ในทุ่งนาแต่เป็นเขตอำเภอเมือง ที่มูโนะอยู่ในชุมชนคือการป้องกันคุ้มครองประชาชน คือระเบิดให้ความยุติธรรมการตายเหมือนกัน อย่างที่สุพรรณเจ้าของก็ตายคนอื่นก็ตาย อันนี้มันเป็นอันตรายรัฐบาลน่าต้องมีมาตรการคงจะต้องดูไปถึงผู้ควบคุม วัตถุระเบิดทหารก็ต้องดูแลฝ่ายปกครองก็ต้องดูแล ทุกคนต้องดูแลพอเกิดเหตุอาจจะต้องดูความถึงความรับผิดชอบของแต่ละหน่วย
////////////////////////////// 20 มกราคม 2567

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ