ข่าวรัฐสภา

หม่อมหลวงปนัดดา บรรยายพิเศษให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร พัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร (พคบ.) รุ่นที่ 15

หม่อมหลวงปนัดดา บรรยายพิเศษให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร พัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร (พคบ.) รุ่นที่ 15

วันที่ 19 มกราคม 2567 เวลา 13.00 – 16.00 นาฬิกา หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์, รองประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา บรรยายพิเศษ เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคงของชาติ” ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร พัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร (พคบ.) รุ่นที่ 15 ประกอบด้วย ผู้บริหารหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และภาคสื่อมวลชน จัดโดย สำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

หม่อมหลวงปนัดดา กล่าวในความตอนหนึ่งว่า “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานกลางเพื่อต่อต้านภัยคุกคามที่มุ่งทำลายผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ และการจัดอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหารดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสัมพันธ์และเสริมสร้างเครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหารของหลายภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง

และความสงบเรียบร้อยของสังคม ดังนั้น สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การเรียนรู้จนเกิดความเข้าใจในประวัติความเป็นมาของชาติและพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อชาติบ้านเมืองและประชาชนคนไทย การสร้างเสริมความสมัครสมานสามัคคีที่มีจุดมุ่งหมายในการรักษาชาติบ้านเมืองและสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ เมื่อเกิดความรู้ก็ย่อมมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ลึกซึ้ง จนนำมาซึ่งความรักความศรัทธาและเข้าถึงผูกพันมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดต่อกันทั้งทางกาย วาจา ใจ และเมื่อมีความซื่อสัตย์สุจริตและจริงใจต่อกัน ก็จะเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน จนเกิดความร่วมแรงร่วมใจสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวตามมา เมื่อเกิดความสมัครสมานสามัคคีต่อกันแล้ว การร่วมกันคิดและกระทำการสิ่งใดก็ย่อมมีพลังต่อการพัฒนาองค์กร และสามารถนำไปสู่ผลสำเร็จที่มีความถูกต้องและสมบูรณ์ ซึ่งหลักการสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงาน คือ การพัฒนากาย วาจา ใจ ตามศาสตร์พระราชา อันได้แก่ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : มีความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และอาศัยความรู้คู่คุณธรรมในสร้างเสริมสติปัญญา การใช้ปัญญานำหน้าชีวิตสู่ความสำเร็จ และการประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ รักเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วยกันเสริมสร้างความรู้รักสามัคคี และเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มีความกตัญญูกตเวที ความพอเพียง และดำรงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของแผ่นดิน ตลอดจนวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม เพื่อให้ผู้คนในสังคม โดยเฉพาะลูกหลานเยาวชนได้มีแบบอย่างที่ถูกต้องดีงาม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีมีคุณภาพให้เกิดขึ้น บ้านเมืองได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างเป็นระเบียบแบบแผน มีระบบพิธีที่นานาอารยประเทศให้ความเคารพนับถือ

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน