Uncategorized

เพชรบูรณ์ : ผู้ใหญ่บ้านสู้ชีวิต…ในจังหวัดเพชรบูรณ์ น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ ปลดหนี้สินนับล้าน สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อปี

เพชรบูรณ์ : ผู้ใหญ่บ้านสู้ชีวิต…ในจังหวัดเพชรบูรณ์ น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ ปลดหนี้สินนับล้าน สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อปี

 

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เลข 65 หมู่ที่ 6 บ้านบึงนาจาน ต.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของ นางแต๋ว ลุณวงศ์ อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่6 ผู้ซึ่งหันตัวเองมาทำการเกษตรแบบผสมผสาน ที่มีทั้งการปลูก พืชผักสวนครัว มะนาว มะละกอ กล้วย หน่อไม้ โดยเฉพาะการเลี้ยงปลาดุก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงกบ ที่ตนเองลงทุน เพาะปลูกและเลี้ยงไว้เมื่อ 4 ปีก่อน ในพื้นที่จำนวน 6 ไร่ ซึ่งขณะนี้ให้ผลผลิตดีมาก
โดยนางแต๋ว ลุณวงศ์ เดิมทีเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา กำพร้าพ่อแม่ ชีวิตไม่มีแม้ข้าวจะกินจนกระทั่งตัดสินใจเดินทางมาขออาศัยอยู่กับยาย ที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และได้แต่งงานกับคุณพ่อประสิทธิ์ ลุณวงศ์ มีลูกด้วยกัน 2 คน และได้ยึดอาชีพทำการเกษตร คือทำนา รับจ้าง เป็นแม่บ้าน และได้มีโอกาสเป็นครูที่ศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากคุณสมบัติด้านวุฒิการศึกษา ไม่ผ่านจึงได้ออกจากการเป็นครู ต่อมาได้มีโรงงานอุสาหกรรมน้ำตาล มาตั้งในพื้นที่ ก็ได้ผลันตัวเอง มาปลูกไร่อ้อย กู้เงินมาลงทุน บนที่ดินจำนวน 20 ไร่ แต่มักประสบปัญหาปัจจัยการผลิตที่สูง ราคาตก ทั้งปัญหาด้านดินที่ไม่เหมาะแก่การปลูกอ้อย จนเกิดภาระหนี้สินรอบตัว
เนื่องจากตนเองมีนิสัยชอบเรียนรู้ ไม่ยอมแพ้ต่อโชคซะตา จึงได้ตัดสินใจ ลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านบึงนาจาน เมื่อปี พ.ศ.2556 และได้รับการเลือกเป็นผู้ใหญ่ และได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานหลายที่จนเกิดแรงบันดาลใจ
จนหันมาเริ่มศึกษาแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ตามรอยพ่อหลวง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จึงได้นำความรู้มาทำการเกษตรแบบผสมผสาน อย่างจริงจัง เริ่มด้วยการสั่งซื้อพันธุ์ปลาดุก จากประมงจังหวัดมาเลี้ยง ทางประมงก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสอนวิธีการเลี้ยงปลาดุก พร้อมกันตนเองก็ปลูกพืชผักสวนครัวทุกอย่างแซม เช่น มะนาว มะละกอ กล้วย หน่อไม้ อ้อย ทั้งไว้กินในครอบครัวและจำหน่าย ซึ่งสามารถเก็บส่งขายให้ทางกับสหกรณ์รักษ์ศรีเทพ ซึ่งเป็นผักปลอดสารพิษ ส่วนปลาดุก ก็สามารถส่งขายในราคากิโลกรัมละ 40 บาท โดยปัจจุบันมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อปลาดุกถึงสวน ราคากิโลกรัมละ 32 บาท เป็ดราคากิโลกรัมละ 100 บาท และ กบ ราคากิโลกรัมละ100 บาท และส่งตามร้านอาหารในตัวอำเภอและใกล้เคียง
นอกจากนี้ ตนเองยังได้มานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรถึงทำให้ครอบครัวมีรายได้เป็นรายวันจึงได้ตัดสินใจนำปลาดุกมาย่างขาย สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 บาทต่อวัน และปัจจุบันได้นำปลาดุกมาทำเมนูปลาดุกย่างสมุนไพร ซึ่งมีความหอมของสมุนไพรและอร่อย ปัจจุบัน เมนูปลาดุกย่างสมุนไพร ยังได้ของสินค้า otop ขึ้นชื่อของหมู่บ้านบึงนาจาน อีกด้วย
ความใฝ่ฝันของแม่ผู้ใหญ่แต๋ว ลุณวงศ์ ตอนนี้ คือการมองกาแหล่งตลาด และทำ
ตลาดนัดในชุมชน ให้ชาวบ้านมีรายได้ นำพืชผักสวนครัวมาวางขาย ในช่วงที่เว้นจากฤดูทำนา

รุ่งทิพย์ บุญบำรุง/มนสิชา คล้ายแก้ว ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์