ข่าวเชียงใหม่

พิธีเปิดอาคารที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงใหม่ ตอบรับนโยบาย รัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 “ให้บริการ อย่างมีประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานสากลยึดมั่นความมั่นคงเป็นหัวใจในการทำงาน” ณ ตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงใหม่

พิธีเปิดอาคารที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงใหม่ ตอบรับนโยบาย รัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 “ให้บริการ อย่างมีประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานสากลยึดมั่นความมั่นคงเป็นหัวใจในการทำงาน” ณ ตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงใหม่

วันที่ 29 กันยายน 2561 เวลา 10.19 น. นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ เชียงใหม่ พล.ต.ต.ภาคภูมิภิพัทฒ์ สัจจพันธุ์ รองผู้บัญชาการสำนักงาน ตรวจคนเข้าเมือง เป็นประธานใน พิธีเปิดอาคารที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรัต นิยมการ รองผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ชัยรัตน์ รัตนาธรรมวัฒน์ ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ ท่านกงสุลนานาประเทศฯ หัวหน้าส่วน ราชการและแขก ผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิดในครั้งนี้

 

 

ประวัติโดยสังเขปของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เปิดทำการครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2493 ใช้ชื่อว่า ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ตำบลสันมหาพล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีหัวหน้าด่านระดับ สว. ต่อมาในปี พ.ศ.2511 ได้ย้ายที่ทำการมาตั้งอยู่เลขที่ 30 ( บริเวณสี่แยกข่วงสิงห์ ) ถนนโชตนา ( เชียงใหม่ – ฝาง ) ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และในปี พ.ศ.2527 ได้ย้ายมาตั้งอยู่เลขที่ 71 หมู่3 ถนนสนามบิน ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 3 ตารางวา ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 200 เมตร จนถึงปัจจุบัน และได้มีการปรับปรุงโครงสร้างตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ กรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ( ฉบับที่ 22 ) พ.ศ.2526 ยกฐานะขึ้นเป็นหน่วยงานระดับกองกำกับการ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อ วันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2537 กำหนด ชื่อใหม่เป็น ด่านตรวจคนเข้าเมือง เชียงใหม่ กองตรวจคนเข้าเมือง 3 พ.ศ.2548 ขึ้นการบังคับบัญชากับ ศูนย์ตรวจคนเข้าเมืองภาคเหนือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ปัจจุบัน มีหัวหน้าด่าน ระดับ ผกก.

โดยอาคารที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่หลังใหม่แห่งนี้ ถือเป็น อาคารที่พร้อมให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานสากล อีกทั้งยังสอดรับกับยุทธศาสตร์ของทางรัฐบาล Thailand 4.0 และวิสัยทัศน์ของผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามสโลแกนที่ว่า “ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานสากลยึดมั่นความมั่นคงเป็นหัวใจในการทำงาน” และยังนำโครงการ เชียงใหม่สมาร์ทซิตี้ มาใช้และ นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงานและการให้บริการ มีการนำระบบคิว ที่เรียกว่า Happy Queueที่มีระบบการ บริหารจัดการคิวเช่นมีระบบ QR Code เพื่อตรวจสอบจำนวนคิวและปริมาณเวลาที่รอได้จากโทรศัพท์ช่วยลดการเสียเวลารอคอยและต่อไปจะสามารถทำการนัดหมายล่วงหน้ารวมทั้งสามารถส่งเอกสารให้ตรวจสอบล่วงหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์โดยจะมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดที่ต้องมาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นต้น ซึ่งโครงการนี้ พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี ผู้บังคับการตรวจคน เข้าเมือง 5 ได้เริ่มต้นจัดทำโครงการ พร้อมทั้งอนุมัติงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการก่อสร้างอาคารที่ทำการแห่งนี้.

 

นิมิตร โปธา คลิปภาพ/ทรงวุฒิ ทับทอง ข่าว