ข่าวรัฐสภา

ประธานวุฒิสภาและเลขาธิการวุฒิสภา ลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ประจำปีงบประมาณ 2567

ประธานวุฒิสภาและเลขาธิการวุฒิสภา ลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ประจำปีงบประมาณ 2567

วันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จัดพิธีลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ระหว่างศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กับนางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา โดยมี พลตำรวจเอก วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานอนุกรรมการข้าราชการรัฐสภา (อ.ก.ร.) ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานราชการของรัฐสภา ลงนามเป็นสักขีพยาน และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมพิธี
.
โอกาสนี้ ประธานวุฒิสภา กล่าวมอบนโยบายในการปฏิบัติราชการแก่ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจของวุฒิสภา ทั้งงานด้านวิชาการและด้านอื่น ๆ อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกันนั้นได้มีการพัฒนา กระบวนงานต่าง ๆ โดยการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการ ส่งผลให้วุฒิสภาสามารถปฏิบัติภารกิจอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจในรอบปีที่ผ่านมานั้น และขอขอบคุณ อ.ก.ร. ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานราชการของรัฐสภา ที่ได้วางหลักเกณฑ์การประเมินผล กำหนดกรอบตัวชี้วัดที่ครอบคลุม ทุกมิติการพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ และสิ่งที่สำคัญ คือ ความร่วมมือร่วมใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ของบุคลากร ทุกระดับในสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติราชการ และพัฒนาองค์กรสู่ความเป็น Smart Senate

.
สำหรับแนวทางการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ขอมอบแนวนโยบายในการปฏิบัติไว้ 4 ประการ ดังนี้
1. ทบทวนและปรับปรุงกระบวนการสนับสนุนการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติของวุฒิสภาให้มีประสิทธิภาพ มีความถูกต้อง รวดเร็ว ทันสมัย พร้อมเปิดเผยต่อสาธารณชน ตลอดจนมีกระบวนการตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย อันเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดี ในการทำหน้าที่นิติบัญญัติของวุฒิสภา
2. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ให้แก่เยาวชน และประชาชน เกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดจนบทบาทหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายความร่วมมือต่าง ๆ ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค
3. ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการองค์กรให้มีขีดสมรรถนะสูง มุ่งสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ให้มีความโปร่งใส ตามมาตรฐานธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ และให้ความสำคัญต่อการ ใช้ทรัพยากร และจัดการสภาพแวดล้อมตามหลักการสำนักงานสีเขียว
4. รักษามาตรฐานในการพัฒนาบุคลากรให้มีขีดสมรรถนะสูง มีความรู้ ความสามารถ มีทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ และมีคุณธรรมจริยธรรม รวมทั้งให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความสุขของบุคลากรควบคู่กัน

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน