Uncategorized

ตาก=พายุฝนพัดต้นไม้อายุราวกว่า 100 ปี ล้มทับถนนสายช่องแคบ- มหาวัน อ.พบพระ จ.ตาก =ทางด้าน นายอำเภอแม่สอด สั่งเร่งแก้ไข ตลิ่งริมแม่น้ำเมยพัง

ตาก=พายุฝนพัดต้นไม้อายุราวกว่า 100 ปี ล้มทับถนนสายช่องแคบ- มหาวัน อ.พบพระ จ.ตาก =ทางด้าน นายอำเภอแม่สอด สั่งเร่งแก้ไข ตลิ่งริมแม่น้ำเมยพัง

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2561 นายสุชาติ พรมมาก ประธานสมาคมกู้ภัยพายัพอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้รับเหตุแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดพายุพัดต้นไม้ล้มทับถนนชนบทเส้นทางตำบลช่องแคบ- ตำบลมหาวัน หมู่ที่ 3 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก รถยนต์ ยานพาหนะ ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ –กู้ภัยพายับอำเภอพบพระ , เจ้าหน้าที่ขวงทางหลวงตากที่ 2 ( แม่สอด ) และเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ช่องแคบ อ.พบพระ ที่เกิดเหตุพบต้นไม้ขนาดใหญ่ อายุราวกว่า 100 ปี หักล้มทับขวางถนนสายดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงช่วยตัดต้นไม้ออกจากถนนใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงเคลียร์พื้นทีได้โดยรถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้เป็นปกติ

นายสุชาติ พรมมาก กล่าวว่า ขณะนี้พายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดตากหลายอำเภอมีทำให้ดินสไลด์ลงมาบริเวณถนน จึงขอให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาเส้นทางสายแม่สอด – อุ้มผาง และ ถนนเส้นทางสายตำบลช่องแคบ –ตำบลมหาวัน ใช้ความระมัดระวัง อีกทั้งมีต้นไม้โค่นล้มลงมาปิดทับถนนและยังมีดินสไลด์ลงมาอีกหลายแห่ง

ขณะเดียวกันจากการที่มีน้ำกัดเซาะตลิ่งริมแม่น้ำเมยพัง นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบริเวณถนนเลียบแม่น้ำเมย บ้านใหม่ท่าซุง หมู่ที่ 9 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนัก น้ำในแม่น้ำเมยมีปริมาณมาก กระะแสน้ำไหลแรงกัดเซาะตลิ่งพังเสียหาย กว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร และถนนเลียบแม่น้ำเมยเกิดการทรุดตัว และมีรอยแตกร้าวหลายจุด ระยะทางประมาณ 80 เมตร ซึ่งถนนดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ อบต.แม่กุ จึงได้สั่งการให้ ว่าที่ร้อยเอก เอนก พรมมี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.)แม่กุ อ.แม่สอด เร่งรัดดำเนินการสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน นอกจากนี้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านติดป้ายแจ้งเตือนประชาชน และจัดกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านอำนวยความสะดวก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป


//////////
ธนารักษ์ พินิจวงษ์ รายงาน

Comments are closed.