Uncategorized

บุรีรัมย์ ทีมแพทย์เดินทางเปิดคลินิกเคลื่อนที่ รักษาความพิการบนใบหน้าฟรี! โครงการของพระเทพฯ ขณะที่ชาวบ้านปลื้ม ช่วยลดค่าใช้จ่าย

ทีมแพทย์ศูนย์สมเด็จพระเทพฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เดินทางเปิดคลินิกเคลื่อนที่ ที่จังหวัดบุรีรัมย์เป็นปีที่ 2 บริการรักษาให้ฟรี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ (๒ เมษายน ๒๕๕๘) สมเด็จพระเทพฯ ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ขณะชาวบ้านปลื้ม โครงการพระเทพฯช่วยลดค่าใช้จ่าย

วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๒๐ – ๑๑.๐๐ น. ณ ชั้น ๙ ห้อง ๙๐๑ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ (๒ เมษายน ๒๕๕๘) โรงพยาบาลบุรีรัมย์ นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางเป็นประธานเปิดคลินิกเคลื่อนที่ พร้อมด้วยศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตน ฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมทีมแพทย์จาก ร.พ.จุฬา น.พ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และสหวิชาชีพทั้งภาครัฐภาคเอกชน และประชาชน ที่พาบุตรหลาน ที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ เดินทางมาร่วมโครงการคลินิกเคลื่อนที่ ในครั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและศีรษะทุกประเภท ที่เข้าร่วมโครงการ อยู่ในพื้นที่จังหวัดในเขตอีสานและอีสานใต้ ประมาณ ๑๑๒ คน

โดยศูนย์สมเด็จพระเทพรัตน ฯ เป็นศูนย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะชนิดรุนแรง แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่องปี พ.ศ.2559-จนถึงปัจจุบัน ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยมารับบริการตรวจรักษาประมาณ ๑,๔๐๐ ราย จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากถิ่นทุรกันดาร ขาดแคลนค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษา ปัญหาระบบการส่งต่อผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยบางรายเกิดความล่าช้า ในการที่จะได้รับการช่วยเหลือ ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ จึงได้เริ่มส่งศัลยแพทย์ไปผ่าตัดตามโรงพยาบาลจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหา

ต่อมาทางศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ จึงได้มีแนวคิด จัดตั้งโครงการคลินิกเคลื่อนที่ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกา ผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ในวันอังคารที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๒ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๔ พรรษา โดยเน้นกระบวนการตรวจรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว และต่อเนื่อง ได้มาตรฐานทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลด้านจิตใจ อาชีพและการศึกษา อันจะส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นางนารี สามสีรัมย์ อายุ 67 ปี ชาวบ้านตำบลหนองขมาร อ.คูเมือง บอกว่า ปกติจะพาหลานซึ่งป่วยตั้งแต่กำเนิด มารักษาที่ ร.พ.เป็นประจำอยู่แล้ว พอได้รู้จักโครงการจากทางพัฒนาชุมชนในหมู่บ้านมาแจ้งบอก และพาเดินทางมารักษา พอเข้าโครงการแล้วก็ดีทุกอย่าง เพราะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาได้เยอะมาก เพราะปกติในการดูแลหลานก็ต้องมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างเนื่องจากหลานป่วยมาตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจุบัน กว่าก็ประมาณ10ปีกว่า พอได้เข้าโครงการก็ลดค่าใช้จ่ายได้มาก รู้สึกดีขึ้นมาก

ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตน ฯ กล่าวว่า กระผมขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมโครงการคลินิกเคลื่อนที่ ในครั้งนี้ ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ทางศูนย์ฯได้ยกทีมแพทย์ชำนาญการจาก ร.พ.จุฬา มาอำนวยความสะดวก ครบทุกวงจร ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึง กรุงเทพฯ ซึ่งรักษาให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น ทางศูนย์ก็จะช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่าย โดยผู้มีจิตกุศลจากหลายๆองค์กรที่ร่วมบริจาคช่วยกัน และขอฝากถึงผู้ปกครอง หากบุตรหลานมีความผิดปกติทางหัวกะโหลกในช่วง 1 ปี แรก รีบเข้าพบแพทย์ เพื่อทำการรักษา เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่เด็กจะมีการพัฒนาการทางสมองที่ดี โดยสามารถแจ้งความประสงค์ขอร่วมเข้าโครงการได้ที่ ทางอำเภอหรือเหล่ากาชาดใกล้บ้าน

ขณะ รศ.นพ.นนท์ โรจน์วชิรนนท์ รองหัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตน ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าโดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะพบเป็นเด็กอายุ ต่ำกว่า 15 ปี ส่วนการรักษาเกี่ยวกับความพิการบนในหน้า ปกติจะมีค่าใช้จ่ายในการักษาสูงมาก เนื่องจากบางคนต้องรักษานานหลายปี ซึ่งจะมีทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทางมารักษา ค่ากิน ค่าที่พัก ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ เรามีทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักในการดูแลตามสิทธิบัตรทอง แต่ถึงผู้ป่วยไม่มีบัตรทอง ก็สามารถรักษาฟรีได้ ซึ่งการจัดโครงการคลินิกเคลื่อนที่แบบสหสาขาวิชาชีพ ปี 2562 “จุฬาฯ ใส่ใจ อยู่ไกล เราไปหา” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีบทบาทสำคัญในการออกคัดกรอง วินิจฉัย ผ่าตัด รักษา และติดตามผู้ป่วยในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษา และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามาในกรุงเทพให้กับครอบครัวและผู้มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะที่ยังมีอยู่จำนวนมากในประเทศไทย” รศ.นพ.นนท์กล่าว

ข่าว-ภาพ วันชัย ผิวอร่าม / วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์