Reporter&Thai Army

ศอ.ปกป.ภาค (สน.)ร่วมกับส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สบอ.16 และสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ เพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันรอบพระตำหนักภูพิงค์

ศอ.ปกป.ภาค (สน.)ร่วมกับส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สบอ.16 และสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ เพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันรอบพระตำหนักภูพิงค์ 

วันที่ 19 มี.ค.62 เวลา 15.30 น. พล.ต.บุญยืน อินกว่าง รองแม่ทัพน้อยที่ 3 พร้อมคณะตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานไฟป่าและหมอกควัน ที่สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ โดยมี นายสุเจตน์ มงคลไชยสิทธิ์ ผอ.ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สบอ.16 และนายเศกรัฐ ไชยศิริ หน.สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ รองเสนาธิการ มทบ.33 หน.ศูนย์ปฏิบัติการบินที่ 2 ให้การต้อนรับ
รองแม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่า การตรวจเยี่ยม

การปฏิบัติงานไฟป่าและหมอกควัน ที่สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ ครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง ศอ.ปกป.ภาค (สน.)กับ ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สบอ.16 และสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ในการเพิ่มมาตรการป้องกันไฟป่า โดยนำกำลังทหารร่วมกับชุดเสือไฟและหมู่ดับไฟของสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ ออกลาดตระเวนพื้นที่ป้องปราม และการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการร่วมทำแนวกันไฟร่วมกัน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่
ด้านนายเศกรัฐ ไชยศิริ หน.สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ กล่าวว่า อุทยานดอยสุเทพ – ปุย มีเนื้อที่ 163,162.5 ไร่ โดยพื้นที่บริเวณรัศมี 1 กิโลเมตร รอบพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ห้ามมิให้เกิดไฟป่าเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดทำแนวรั้ว ระยะทาง 3 กิโลเมตร จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าออกลาดตระเวน วันละ 2 ครั้งโดยมีเจ้าหน้าที่ประจำการ 15 นาย ตลอดจนจัดชุดลาดตระเวนป้องปรามบุคคลลักลอบเผาป่า
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ถึง 17 มี.ค.62 พื้นที่ดอยสุเทพ – ปุย มีสถิติการเกิดไฟป่า จำนวน 39 ครั้ง พื้นที่ได้รับความเสียหาย 336.5 ไร่ ส่วนการเกิด hotspot ที่ตรวจพบโดยดาวเทียม modis จำนวน 3 จุด ที่ผาฆ้องผากลอง และวัดป่าธรรมชาติ ต.บ้านปง อ.หางดง รวมพื้นที่เสียหาย 48 ไร่